การสร้างองค์กรให้มีความ “แข็งแกร่ง” และการเติบโตอย่าง “ยั่งยืน” ไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ ก็สามารถที่จะทำได้ เพราะในการบริหารงานจะต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ แต่วันนี้ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จ ด้วยการเป็นบริษัทเครือข่าย “เจ้าแรก” ในอุตสาหกรรมขายตรงไทย ที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2563 และมาในวันนี้ คอลัมน์ Exclusive Interview มีโอกาสได้พูดคุยกับ CEO นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กับเป้าหมายถัดไปในการยกระดับ องค์กรเพื่อพัฒนานักธุรกิจระดับมืออาชีพผ่าน “Success Academy ” เพื่อการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน
เน้น “สร้างคุณค่า” มากกว่า “ความสำเร็จ”
การตลาดยุคใหม่ที่มีการแข่งขันสูง ทุกบริษัทจึงต้องวางกลยุทธ์เพื่อสร้างความแตกต่างให้เป็นที่ประทับใจเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่สร้างจุดแข็งให้ SCM นั้นคือ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า มุ่งเน้นนการสร้าง “คุณค่า” CEO นพกฤษฎิ์ เชื่อว่า ความสำเร็จใครๆ ก็ทำได้ แต่การพิสูจน์ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ให้กับผู้คนมากกว่า 10 ปี ทำให้วันนี้นักธุรกิจ SCM ได้พลิกชีวิตมากมาย แต่เป้าหมายต่อไป คือ การยกระดับให้คนที่สำเร็จ “มีคุณค่า” “สร้างคุณค่า” และ”ส่งต่อคุณค่า”
การก่อตั้งสถาบันการเรียนรู้ “Success Academy ส่งต่อคุณค่าสู่สังคม” ถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ใหญ่ของซัคเซสมอร์ฯ เพื่อช่วยยกระดับนักธุรกิจมืออาชีพในองค์กรให้มีความแข็งแกร่ง ให้สามารถออกไปส่งต่อคุณค่าดี ๆ และส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีสู่สังคมไทย เพื่อสร้างชุมชนขนาดใหญ่มุ่งเน้นการแบ่งปันคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่กันและกัน สร้างความเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีขึ้นได้
วัตถุประสงค์ของการสร้างสถาบัน Success Academy หลัก ๆ ได้แก่ 1. เพื่อสร้างความเข้มแข็งแบรนด์ ซัคเซสมอร์ฯ ให้มีความแข็งแกร่ง เรามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและมีความไว้วางใจในแบรนด์ เมื่อนักธุรกิจเข้ามาสู่สถาบัน “Success Academy” ที่นี่มีความพร้อมให้คุณสามารถเรียนรู้ทักษะการทำธุรกิจอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ พร้อมการลงมือทำด้วยเครื่องมือการทำธุรกิจแบบครบวงจร 2.เพื่อสร้างระบบการเรียนรู้และแผนการพัฒนาธุรกิจที่มีความชัดเจน ออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเจ้าของธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน
เข้าใจง่าย เรียนรู้ได้ทุกที่ ด้วยระบบ “E-Learning”
CEO นพกฤษฏิ์ กล่าวต่อว่า ซัคเซสมอร์ ให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะ เพื่อส่งเสริมให้นักธุรกิจมีความเป็นผู้นำในองค์กรอย่างแท้จริง เมื่อโลกธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง นักธุรกิจคนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจในเรื่องการตลาดยุคดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เราจะต้องพัฒนาและตามให้ทันเทคโนโลยี หนึ่งในระบบการเรียนรู้ที่ทำให้องค์กรสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน คือการเรียนรู้ผ่านระบบ “E-Learning” ที่สามารถเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์แบบ 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมและทักษะของนักธุรกิจเข้าสู่สนามธุรกิจ O2O อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นการก่อตั้งสถาบัน “Success Academy” ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจเครือข่ายออฟไลน์และออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ และส่งเสริมนักธุรกิจให้เป็นผู้นำที่แข็งแกร่งสามารถส่งต่อความรู้และทักษะการทำงานให้กับทีมงานและขยายองค์กรได้
โดยสถาบัน “Success Academy” ได้มีการพัฒนาหลักสูตรขึ้นใหม่ เพื่อให้ทันตลาดธุรกิจยุคใหม่ แบ่งเป็น 2 หลักสูตร ได้แก่ 1.หลักสูตรการเรียนขั้นพื้นฐาน (Fundamental) ซึ่งเป็นหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องของ ความคิด (Mindset) ความเป็นผู้นำ (Leadership) การสื่อสาร (Communicate) และการบริหารจัดการทีมและองค์กร (Team Building) เพื่อสร้างให้นักธุรกิจมีภาวะการเป็นผู้นำ 2.หลักสูตรการเรียนตามยุคสมัย หลักสูตรนี้จะเน้นในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้นักธุรกิจมีความรู้ความเข้าใจและเข้าถึงกลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่ เพื่อก้าวให้ทันเทรนด์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาทิ หลักสูตรการตลาดยุคดิจิทัล หลักสูตรการยิงแอดโฆษณา และหลักสูตรการสร้างคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เป็นต้น
“สถาบัน Success Academy เรามุ่งเน้นให้ความสำคัญและความใส่ใจกับนักธุรกิจ เรามีระบบ e-learning ในการให้ความรู้กับนักธุรกิจในรูปแบบสื่อออนไลน์ เพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมขององค์กรและการซึมซับความรู้ในการทำธุรกิจ เพื่อให้นักธุรกิจสามารถส่งมอบคุณค่าจากองค์ความรู้นี้ให้กับทีม ประสบความ สำเร็จอย่างยั่งยืน”
SCM ตอบโจทย์ ทุกความต้องการ
CEO นพกฤษฏิ์ กล่าวสรุปทิ้งท้ายว่า ซัคเซสมอร์ฯ ตั้งใจยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความมั่นคง มีอิสรภาพในการใช้ชีวิต เป็นการสร้างสังคมขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้คนในชุมชนประสบความสำเร็จและสามารถส่งต่อพลังบวกให้แก่กันได้ ดังนั้นการจะนำพาองค์กรก้าวไปสู่จุดนั้นได้ ซัคเซสมอร์ฯ จึงได้วางกลยุทธ์ปัจจัยแห่งความสำเร็จ (Key Success Factors) ไว้ 5 ปัจจัยความสำเร็จ ดังต่อไปนี้
1.การสร้าง Branding คือ การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ต้องมีความชัดเจนเพื่อสื่อสารให้ไปถึงลูกค้า ตามพันธกิจองค์กร นั้นคือ การสร้างผลกระทบเชิงบวกเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนและเป็นแบรนด์ในระดับผู้นำ เพื่อให้เป็นที่น่าจดจำของผู้บริโภค
2.The Power of One พลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียว บริษัทและผู้นำในองค์กร จะต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมถึงการทำงานที่ใช้ระบบเดียวกันและก้าวไปสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน
3.Key Drivers ในการประกอบธุรกิจจะต้องให้มีแข็งแรง ถึงจะสามารถนำพาองค์กรไปสู่จุดหมายได้ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 4 ปัจจัย ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ได้แก่
3.1 ผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์
3.2 ผู้นำทีมที่มีคุณค่าสูง
3.3 ระบบการส่งมอบคุณค่า
3.4 การสร้างชุมชนย่อยให้ดีขึ้น
4.การยกระดับคุณค่าของนักธุรกิจผ่าน 4 หลักสูตร เพื่อสร้างนักธุรกิจให้มีความเป็นผู้นำ ซึ่งประกอบไปด้วย 1.ความคิด (Mindset) 2.ทักษะ (Skillset) 3.ความเป็นผู้นำ (Leadership) และ 4.พลังแห่งทีม (Teambuilding)
5.การก้าวผ่านจากเศรษฐศาสตร์อุปโภค – บริโภค สู่เศรษฐศาสตร์มนุษย์
“เมื่อผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เขาก็จะเกิดความผูกพันกับแบรนด์ที่ลึกซึ้งมากกว่าคำว่า “ความรัก” และการออกไปส่งต่อคุณค่าที่ดีนั้นสู่ชุมชน นั่นเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงของแบรนด์ซัคเซสมอร์ฯ ที่เรามุ่งหวัง จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่แห่งการแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ทำให้คุณภาพชีวิตของคนในสังคมซัคเซสมอร์ฯ มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมั่นคงและยั่งยืน” และซัคเซสมอร์ยืนหนึ่งในการส่งเสริมผู้คนให้สร้างคุณค่าและเป็นผู้สร้างผลกระทบเชิงบวกสู่สังคม