“ซัคเซสมอร์” ประกาศผลงานไตรมาส 1/2567 ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิ 11.6 ล้านบาท โดยมียอดขายหลักมาจากสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์ Nutrinal และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรแบรนด์ Growing More มั่นใจผลประกอบการปี 2567 พลิกฟื้นและเติบโตต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจเดิม คือ ธุรกิจเครือข่าย (MLM) โดยบริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวสู่ Global Business เต็มตัว พร้อมรุกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วเอเชีย โดยการขยายตลาดไปยัง ประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเชีย คาดว่าจะสร้างรายได้ภายในปี 2567
CEO นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ในไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้รวม 170.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.6 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูงสุด 2 กลุ่มแรกของบริษัท ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเพื่อการเกษตรตามลำดับ ทั้งนี้ บริษัทได้รับรางวัลจากเวทีประกาศรางวัล The People Awards 2024 ในสาขา Corporate of The Years 2024 ให้กับ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ที่ในปีนี้มาในธีม “People Go Beyond” ต้นแบบ “คน” ทะยานข้ามขีดจำกัด” ซึ่งสอดรับกับคุณค่าที่องค์กรได้ดำเนินกิจการและยึดมั่นมาตลอด จนเป็นที่ประจักษ์แก่บุคลากรภายในและสายตาของผู้คนภายนอก อีกทั้งการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้บริษัทมีแผนงานที่จะขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ ๆ โดยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาชิกและผู้บริโภคเดิมของบริษัท รวมถึงทำการวิจัยตลาดเพื่อหาโอกาสสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ด้วยการออกสินค้าใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพการใช้งานและดีไซน์ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า รวมถึงมีราคาในระดับที่แข่งขันกับสินค้าใกล้เคียงในท้องตลาดได้ โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานสมาชิกด้วยกลยุทธ์ที่วางไว้เป็นสมการ XYZ โดยที่ X คือ การเพิ่มฐาน Member ให้มีปริมาณที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Y คือ คุณภาพของสมาชิกต้อง Active หรือมีความต่อเนื่อง ในการซื้อสินค้า ส่วน Z คือ ยอด Order Size ที่สมาชิกแต่ละคนซื้อต่อครั้ง จะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น
นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ด้วยจุดมุ่งหมายของบริษัทที่ต้องการเติบโตในระยะยาว บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะต้อง Diversify ธุรกิจ นอกเหนือจากธุรกิจเครือข่ายที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ไปสู่ธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดเป็น The Second Wave ให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยการขยายตลาดไปในต่างประเทศ เสริมแกร่งด้วยกลยุทธ์ Global Business ทั่วเอเชียที่บริษัทให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง หมุดหมายต่อไปที่จะดำเนินการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเชีย จากที่ในปัจจุบัน SCM มีตัวแทนจำหน่ายแล้วใน 6 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา, สปป.ลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ นำเสนอสินค้าคุณภาพในกลุ่มเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน (Health & Wellness) การพัฒนาช่องทางและเครื่องมือให้นักขายสามารถทำธุรกิจได้สะดวกรวดเร็ว เชื่อมั่นว่าจะสามารถต่อยอดธุรกิจให้กับ SCM และจะทำให้ SCM มีโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ในทุกกลุ่มสินค้าได้อย่างแน่นอน
นพ.สิทธวีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา SCM ได้เข้าไปมีส่วนในการเติมเต็มชีวิตประจำวันของผู้บริโภค และยังคงเดินหน้าเพื่อยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามปณิธานองค์กร คือ “Inspiration for Your Being” ดังนั้น SCM จะไม่หยุดคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพสูงตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ล่าสุด บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “Veggie Jelly” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นิวทรินัล เวจจี้ อุดมไปด้วยผัก และผลไม้ 36 ชนิด ในรูปแบบเจลลี่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณผักและผลไม้ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน และผลิตภัณฑ์น้ำหอม ในกลุ่มแบรนด์ BodyCheer, มี 4 ลุค 4 สไตล์ “เพิ่มเสน่ห์ที่ใช่สำหรับตัวคุณ” เลือกได้ในแบบที่คุณเป็น ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำหอม 4 กลิ่น ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี และยังมีสินค้าที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมนี้อีกด้วย แน่นอนว่ามีราคาแข่งขันได้เมื่อเทียบกับสินค้าในท้องตลาด ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากสมาชิกและผู้บริโภค
นอกจากสินค้าที่มีคุณภาพสูงแล้ว จุดเด่นของ SCM ยังเป็นเรื่องของความมั่นคงทางการเงิน และแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ตอบโจทย์นักธุรกิจเครือข่าย จึงมั่นใจได้ว่า SCM จะเติบโตต่อเนื่อง พร้อมที่พัฒนาสินค้าคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภค และพร้อมเป็นแรงบันดาลใจเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนอย่างมั่นคง
