“J&C” สยายปีกก้าวผ่านสู่ทศวรรษที่ 2 ตอกย้ำความสำเร็จยกระดับธุรกิจขายตรงโมเดิร์นเทรด เสริมยุทธศาสตร์สู่ “DIGITAL MLM SOLUTION” ทุ่มงบ 3 ล้านบาทต่อเดือน พัฒนานักธุรกิจติดปีก Skill Set รอบด้านภายใต้คอนเซ็ปต์ “แค่ Touch ก็จัดการธุรกิจได้” ผ่าน “Super App” ตอกย้ำความสำเร็จยิ่งใหญ่ ภายใต้ธีม “J&C Victory & Beyond” ประกาศเกียรติคุณนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ เดินหน้าขยายธุรกิจสู่อนาคต
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5-7 ศูนย์ประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (J&C) จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปี และประกาศเกียรติคุณผู้ประสบความสำเร็จ MDP ภายใต้ธีม “J&C Victory & Beyond” เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จทางธุรกิจ J&C ในทุกด้าน พร้อมกางแผนยุทธศาสตร์เพื่อยกระดับธุรกิจสู่ “DIGITAL MLM SOLUTION” ในอนาคตสำหรับงานเฉลิมฉลองดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก ธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมทำพิธีเปิดร่วมกับคณะผู้บริหารระดับสูง นำโดย ดร.สมชาย หัชลีฬหา ประธานกรรมการบริหาร, ดร.กฤตภัค หัชลีฬหา รองประธานกรรมการบริหาร, อนุวัฒน์ ธรมธัช รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท จอยมาร์ท จำกัด, อำพล วงศ์ศิริ ที่ปรึกษาสมาคมพัฒนาการขายตรงไทย, อาสา หัชลีฬหา ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารและในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด, ผู้อำนวยการสถานีเจซีทีวี บริษัท เจ ซี บรอดคาสท์ จำกัด, ดร.ฐัช หัชลีฬหา ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร, ศรัณย์ณัฐฐา หัชลีฬหา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและรองผู้อำนวยการสถานี เจซีทีวี บริษัท เจ ซี บรอดคาสท์ จำกัด ท่ามกลางเหล่าสมาชิกผู้นำนักธุรกิจ จอย แอนด์ คอยน์ (J&C) ในไทยและต่างประเทศเข้าร่วมงานล้นหลาม
โดย ดร.สมชาย หัชลีฬหา ประธานกรรมการ บริหาร บริษัท จอยแอนด์คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (J&C) กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้ไม่สามารถจัดงานฉลองครบรอบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ กระทั่งปีนี้ถือเป็นโอกาสอันดีเป็นปีเริ่มต้นในการกลับมาจัดงาน Re-Anniversary เพื่อเฉลิมฉลองร่วมกันในปีครบรอบปีที่ 18, ปีที่ 19 และปีที่ 20 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดงาน
4 ประการ คือ
1. เฉลิมฉลองให้สมาชิกที่ประสบความสำเร็จทั้งในปีนี้ และผู้ประสบความสำเร็จย้อนไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ เป็นขวัญกำลังใจ และมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ต่อไป
2. นำเสนอผลงานในการพัฒนาองค์กร อาทิ ผลิตภัณฑ์สินค้า ระบบ นวัตกรรมใหม่ ๆ ตลอดช่วง 2 ปี มาโชว์ให้เห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งขึ้น
3. นำเสนอนวัตกรรมในอนาคต ที่จะทำให้ทุกคนได้เห็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจของ J&C
ในก้าวต่อไป
4. เพื่อสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นต่อบริษัทในอนาคต
ภายในงานยังได้มีการนำสินค้ามาให้เลือกช้อปปิ้ง ทั้งสินค้า House Brand และสินค้าในเครือพันธมิตรอีกมากมายกว่า 10,000 รายการ เช่น สินค้าอุปโภค-บริโภค ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตร เป็นต้น
ทั้งนี้ ยังได้มีการนำเสนอแผนดำเนินการพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของบริษัท ทั้งด้านกระบวนการ ด้านผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ นวัตกรรมใหม่ และเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์รวมถึงการใช้อีคอมเมิร์ซ รูปแบบใหม่ เช่น แชทคอมเมิร์ซ, แชทออนไลน์, การนำเทคโนโลยีโรบอทมาช่วยนำเสนอส่งเสริมสนับสนุนสินค้าและช่วยตอบคำถามให้กับลูกค้า เพื่อขยายฐานด้านการบริการให้เกิดความครอบคลุม มากยิ่งขึ้น
สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้ และการปรับตัวของบริษัท ดร.สมชาย กล่าวว่า “ปีนี้กำลังซื้อของผู้บริโภคตกลงมาก ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ ไม่ได้เป็นเฉพาะประเทศไทย เหตุผลเพราะเงินเฟ้อ ของแพง เงินในกระเป๋าน้อยลง เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนก็ต้องปรับตัว โดยทาง J&C ได้เริ่มปรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัลมาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบันการพัฒนาดิจิทัลก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ดิจิทัลแพลตฟอร์มของเราสามารถสั่งซื้อของได้ มีวิดีโอคอนเทนต์ E-learning เพื่อเรียนรู้ Business model มีคิวอาร์โค้ด ที่สแกนแล้วสามารถสั่งซื้อของได้เลย
ส่วนทางด้านแอปพลิเคชันก็มีการพัฒนาใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์การขายและขยายธุรกิจ ทำให้นักธุรกิจทุกคนรู้ว่า ขั้นตอนต่อไปคุณควรต้องทำอะไร โดยบอกไปถึงสถานการณ์ของผู้คนในองค์กรข้างล่างว่า กำลังมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจในระดับไหน Excellent, Good, Fair หรือกำลังจะ Leave Alone คือ กำลังจะไปจากธุรกิจแล้ว เช่น พฤติกรรมไม่ซื้อของ ไม่เข้าร่วมกิจกรรม ไม่บริโภค เป็นต้น”
ดร.สมชาย มองว่า ความสำเร็จที่เด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ เกิดจากการที่บริษัททรานฟอร์มธุรกิจ เพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลเป็นเจ้าแรกของธุรกิจขายตรง จึงเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ธุรกิจ J&C เป็นองค์กร
ที่มีรากฐานธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่ง จากการวางแผนวางกลยุทธ์อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
การปรับเปลี่ยนของ J&C ในทางธุรกิจยังมุ่งตรงไปที่การพัฒนาศักยภาพคนภายในองค์กร ให้เสมือนเสือติดปีก ด้วยการใช้ดิจิทัลทรานฟอร์มสร้างให้ทุกคนสามารถใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มทักษะ เพิ่มความสามารถการเข้าถึงผู้คน สามารถติดตามคนในองค์กรของตนเอง และสามารถล่วงรู้พฤติกรรมการซื้อการบริโภคของคนในองค์กรได้
“ทุกเดือนเรายังใช้งบประมาณส่งเสริมการตลาดในการพัฒนาคนร่วม 3,000,000 บาท เพื่อให้รางวัล จัดกิจกรรมพิเศษและการอบรมในต่างจังหวัด โดยเรายังมีการกระจายเงินสดออกไปเป็นรางวัลพิเศษให้คนสำเร็จ โดยผู้เข้าร่วมงานมีทั้งนักธุรกิจชาวไทยและต่างประเทศ ส่วนผมเองก็สอนในหลักสูตร JC MATRIX ที่พัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่องตลอดกว่า 10 ปี ทั้งเรื่ององค์ความรู้เรื่องของการตลาด การใช้เทคโนโลยี การทำตลาดออนไลน์ การเพิ่มศักยภาพ Skill Set ต่าง ๆ ทั้ง Soft Skill และ Hard Skill เพราะถ้านักธุรกิจมีแต่ Attitude ไม่มี Skill Set ไม่มีความชำนาญก็จะกลายเป็นคิดดีแต่ทำไม่รอด”
ทั้งนี้ ดร.สมชาย กล่าวว่า 3 นโยบายหลัก ที่จะถูกนำมาใช้เป็นแกนในการพัฒนากลยุทธ์
ในอีก 5 ปีข้างหน้า สู่การเป็น “DIGITAL MLM SOLUTION” ได้แก่
1. การทำ J&C ให้เป็น Service Provider ที่คอยสนับสนุนและมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้เข้าร่วม
2. การมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาและสนับสนุนลูกค้าและผู้เข้าร่วม เช่น เทคโนโลยี Device, AI, VR เป็นต้น
3. การพัฒนาธุรกิจ เปิดกว้างสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่นอกเหนือจากกลุ่มคนขายตรง โดยจะเริ่มจากการปรับโฉมสาขาให้เป็นรูปแบบของ Co-Working Space ที่น่านั่งมากขึ้น และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยดูแล แทนการใช้กำลังคน โดยแห่งแรกคือสาขาใหม่ที่เมเจอร์รัชโยธิน
“นอกจากนี้เพื่อก้าวสู่การเป็น “DIGITAL MLM SOLUTION” เต็มรูปแบบ เรามีโครงการร่วมกับ DEPA สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมทุนทำ Digital Zone ที่มาบตาพุด ในโครงการ EEC ใหม่ โดยใช้งบลงทุนไป 5,000,000 บาท ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ใช้เทคโนโลยีทั้งหมด โดย J&C จะเปิดสาขาอยู่ด้านหน้า ภายในจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับขายตรงที่ไม่ใช่ขายตรงอย่างเดียว แต่จะมี เรื่องการสร้างแฟรนไชส์ด้วยดิจิทัลโซลูชั่น และเป็นศูนย์การเรียนรู้สร้าง Skill Set สร้าง Knowledge ให้กับคนมาเรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยีอีกด้วย” ดร.สมชาย กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลประกอบการธุรกิจของ J&C ในปัจจุบันแบ่งสัดส่วนออกเป็น ภายในประเทศ 65% ต่างประเทศ 35% โดย ดร.สมชาย คาดว่า จากสภาวะเศรษฐกิจทั้งไทยและทั่วโลก ไปจนถึงกำลังซื้อที่ยังไม่กลับมาของผู้บริโภคในปีนี้ อัตราการเติบโตของยอดขายในปี 2565 อาจจะลดลงจากปีก่อนประมาณ 10% เนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ในช่วงเวลาของการฟื้นฟู แต่คาดว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะกลับมา ดีขึ้น โดย J&C จะยังคงรุกหนักและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา พร้อมเดินหน้าในการสร้างสาขาและปรับปรุงสาขาเพิ่มเติมทั่วประเทศ โดยมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนาร่วมกัน เพื่อก้าวสู่ผู้นำ “DIGITAL MLM SOLUTION” อย่างเต็มรูปแบบ