“วีลีฟ” ขายตรงสัญชาติมาเลเซีย ขยายตลาดไปแล้วกว่า 11 ประเทศ นับเป็นโอกาสทางธุรกิจอันมีค่าที่ให้หลักประกันความมั่นคงแก่ครอบครัวในระยะยาว ด้วยแผนธุรกิจที่ตอบโจทย์ พร้อมเป็นผู้นำในการสร้างธุรกิจบนโลกออนไลน์ E-business platform เพื่อตอบโจทย์ด้านสุขภาพ ด้วยสินค้านวัตกรรมการวิจัยและพัฒนาของประเทศเยอรมนี
Michael Sim กรรมการบริหาร บริษัท วีลีฟ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า วีลีฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นธุรกิจขายตรงสัญชาติมาเลเซีย โดยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเเละมีความชำนาญและความเข้าใจในการบริหารธุรกิจขายตรง โดยก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อปี 2017 และขยายไปกว่า 11 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ และโปรตุเกส วีลีฟ เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในช่วงปี 2564 ซึ่งตรงกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดพอดี ทำให้มีผลกระทบต่อการทำธุรกิจไปทั่วโลก วีลีฟ เองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เพราะไม่สามารถจัดกิจกรรมอะไรได้เลย โดยในปีนี้บริษัทเริ่มมีการจัดกิจกรรมได้แล้วหลังจากสถานการณ์ดีขึ้น ตอนนี้เริ่มมีแม่ทีมเข้ามาร่วมธุรกิจแล้ว เนื่องจากมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง สินค้าที่ตอบโจทย์และแผนการตลาดที่ทำงานง่าย วันนี้ วีลีฟ พร้อมต้อนรับนักธุรกิจทุกคน เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน
“สำหรับแผนการตลาดของวีลีฟเป็นแบบไบนารี่ที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจ ที่นี่ตัดปัญหาการสต๊อกสินค้าของนักธุรกิจ เพราะการขึ้นตำแหน่งสามารถสะสมยอดขายได้เป็นรายปี และบริษัทไม่มีนโยบายในการทำโปรโมชั่นแพ็กเกจที่มีราคาสูง ทำให้นักธุรกิจไม่ต้องแบกภาระเรื่องราคาสินค้า ซึ่งการรักษายอดก็ทำได้ง่าย ใน 2 วิธี คือ 1.การซื้อซ้ำ และ 2.การแนะนำสมาชิกใหม่ นอกจากนี้วีลีฟยังมีแพลตฟอร์ม ออนไลน์ E-business Platform อีกหนึ่งช่องทางที่จะเข้ามาเสริมการทำธุรกิจที่เน้นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ในการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ถือเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์ในการทำธุรกิจในยุคนี้”
ด้านโรงงานผลิตของ วีลีฟ ตั้งอยู่ที่บริษัทแม่ในประเทศมาเลเซีย โดยผลิตภัณฑ์ ของ วีลีฟ ทุกชิ้นผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาของประเทศเยอรมนี HBA-High Bio-Availability, CNC-Complete Nutrient Chelation และ TWS-Total Wellness Solution เป็นต้น โดยมีการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ผลิตภัณฑ์ของ วิลีฟ ทุกตัวมุ่งเน้นไม่เพียงแต่คุณค่าทางโภชนาการของอาหารเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความสามารถของร่างกายในการดูดซับ นี่เป็นเพราะการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าร่างกายมีสุขภาพดี ขึ้นอยู่กับปริมาณสารอาหารที่เซลล์สามารถดูดซึมได้ ซึ่ง วีลีฟ มีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นหลายรายการ อาทิ ผลิตภัณฑ์ V Oxy, ผลิตภัณฑ์ V Neral, ผลิตภัณฑ์ V Trition, ผลิตภัณฑ์ V Gest และผลิตภัณฑ์ V Sion ซึ่งในอนาคตจะมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมอีกในอนาคต
“เราได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาของคุณเพื่อให้คุณมีความสุขมีสุขภาพที่ดีในทุกวัน เพราะเราก็มีความปรารถนาเช่นเดียวกัน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของเราถูกออกแบบมาฟื้นฟูร่างกายในระดับเซลล์ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งจะทำให้คุณมีความสุขในด้านสุขภาพที่ดี วีลีฟ คือ โอกาสทางธุรกิจอันมีค่า ที่ให้หลักประกันความมั่นคงแก่ครอบครัวในระยะยาว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักธุรกิจวีลีฟทุกคนต่างมุ่งมั่นในธุรกิจของตนอย่างเต็มที่และปรารถนาที่จะดำเนินธุรกิจนี้ไปตามหลักของกฎจรรยาบรรณและระเบียบปฏิบัติที่บริษัทกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างรายได้และความสำเร็จของสมาชิกทุกคน”
อย่างไรก็ตาม ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมสัมมนาเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ เพื่อสร้างแรงเหวี่ยงในการทำธุรกิจ โดยตอนนี้วางเป้ายอดขายต่อปีอย่างน้อยเดือนละ 10 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในปีหน้าจะมีการจัดงานเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการอีกด้วย
