“เป้าหมายของเราคือการนำพาสมาชิกภายใต้องค์กร เอ็มมี่วิช มีรายได้ใช้แบบไม่ขาดมือ ปลดหนี้ ปลดสิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำธุรกิจกับ เก็ทมอร์ แบบมีความสุขด้วยเครื่องมือออนไลน์ ที่ทางเก็ทมอร์ มีให้อย่างมากมาย สู่เป้าหมาย 120 ล้าน ในปีแรก“
ภวิชช์ – อริญรดา ทวีวรโสภณ เจ้าของทีมเอ็มมี่วิช ของบริษัทน้องใหม่มาแรง เก็ทมอร์ บีอิ้ง ทั้งคู่ทำงานประจำ และงานเสริมอีกหลายอย่าง แต่ทำไมถึงมาสนใจธุรกิจเครือข่าย และเหตุใดต้องเป็น เก็ทมอร์ บีอิ้ง วันนี้ Hall of Fame มาไขข้อข้องใจให้ทุกคนได้รับรู้ร่วมกัน
ทั้งคู่ที่เรากำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ ทำงานประจำ แต่อะไรที่สามารถนำมาเป็นอาชีพเสริมได้ก็ทำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการขายพลาสติก หรือ ผลิตครีมหน้าใสขายทางออนไลน์ ซึ่งเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกทำธุรกิจเครือข่ายทั้ง ๆ ที่ ภวิชช์ ไม่เคยชอบมาก่อน มองเป็นธุรกิจขายฝัน ต้องชวนคนทำแล้วเสียเพื่อน แต่เป็นเพราะ อริญรดา ที่เป็นคนเชื่ออะไรยาก แต่เลือกเข้าไปทำธุรกิจนี้ ภวิชช์ จึงตัดสินใจเข้าไปฟังรายละเอียดและเกิดความสงสัยว่าธุรกิจอะไรที่ลงทุนเพียงหลักหมื่น แต่สามารถทำกำไรได้แบบไร้ขีดจำกัด เขาจึงลงมือทำทันที
“เหตุผลที่พวกเราเลือก เก็ทมอร์ เพราะเชื่อว่าช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา หลายท่านคงได้รับผลกระทบพอสมควร ที่นี่จึงถือว่าเป็นบริษัทที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเรา และทีมงาน เนื่องจาก ประธานบริษัท และผู้บริหารทุกท่านมีความเข้าใจใน
รูปแบบของธุรกิจเครือข่ายยุคใหม่ที่เรียกว่าเครือข่ายยุคดิจิทัล มีการผสมผสานระหว่างเครือข่ายยุคเก่า (ออฟไลน์) กับยุคใหม่ (ออนไลน์) ได้แบบลงตัว มีเครื่องมือสำหรับใช้ในการทำตลาดออนไลน์ ครบทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสื่อต่าง ๆ ที่มีให้สมาชิกแบบครบถ้วน อยากได้แบบไหน บริษัทจัดให้ สินค้าที่มีคุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล นั่นจึงไม่มีเหตุผลเลยที่พวกเราจะไม่ทำกับ เก็ทมอร์”
เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้สร้างทีมสุดยอดนักเครือ(ขาย) (นักธุรกิจเครือข่ายผสมนักขายออนไลน์) ขึ้นมามากกว่า
100 คน เกิดจากการที่ ภวิชช์ สงสัยว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่ชอบธุรกิจเครือข่าย แม้แต่ตัวของเขาเองที่ก่อนหน้านี้ก็
ไม่ชอบ โดยแยกออกมาเป็น 2 ข้อ คือ คนส่วนใหญ่ไม่ได้กลัวการลงทุนแต่กลัวการขาดทุน จึงต้องทำอย่างไรก็ได้ ว่าถ้ามาลงทุนกับเราแล้ว ต้องไม่ขาดทุน นั่นคือ วิธีการสอนให้ขายสินค้าให้หมดจะได้ไม่จมทุน ด้วยวิธีการสอนการขายผ่านช่องทาง
ออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม เน้นย้ำและให้ความมั่นใจด้วยว่าต้องขายให้หมด อีกข้อหนึ่ง คือ คนส่วนใหญ่พูดไม่เก่ง ไม่ชอบชวนคน แล้วจะทำอย่างไรให้คนที่เข้ามาทำธุรกิจกับพวกเขาไม่ต้องไปชวน ตื๊อง้อขอขาย จึงมีการสอนให้ใช้วิธีการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ และมีเครื่องมือที่เรียก เซลล์บอทในการได้รายชื่อมาแบบง่าย ๆ โดยถ้าใครสนใจก็มากรอกข้อมูล จากนั้นก็แค่โทรหาหรือนัดมาคุย จึงทำให้หมดปัญหาในการชวนคนไปในทันที
“สำหรับแนวทางการทำธุรกิจของทีม ณ ตอนนี้ สิ่งแรกที่เราเน้นคือเดินหน้าหานักธุรกิจหน้าใหม่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่หรือนักธุรกิจที่ทำที่ไหนมาก็ยังไม่สำเร็จ เข้ามาร่วมธุรกิจ สร้างให้เป็นนักธุรกิจแบบมืออาชีพ โดยใช้เครื่องมือที่ เก็ทมอร์ มีให้เราในการค้นหาดาวดวงใหม่ ผสมผสานการปิดเคสด้วยระบบออฟไลน์ ที่บริษัทมีรองรับอยู่แล้ว เรียกได้ว่า ใครสนใจมาร่วมธุรกิจ อยากขายสินค้าเราก็สอนขายสินค้า ใครอยากมาขยายตัวแทนหรือองค์กร เราก็สอนขยายด้วยเครื่องมือของเรา เรามีระบบการส่งต่อโดยการสอนทักษะที่เรามีทั้งหมดให้กับผู้นำแต่ละท่านนำไปส่งต่อให้สมาชิกในทีมจากรุ่นสู่รุ่นส่งต่อความสำเร็จเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป เราสร้างผู้นำจากคนธรรมดา จากลูกจ้าง จากสาวโรงงาน เปลี่ยนชีวิตมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นแบบอย่างให้กับสมาชิก ปลดหนี้ มีรถในฝันหลักล้าน กว่า 20 ชีวิต และมีรายได้หลักหมื่นหลักแสนกว่า 100 ชีวิต ส่วนเป้าหมายของเราคือการนำพาสมาชิกภายใต้องค์กร เอ็มมี่วิช มีรายได้ใช้แบบไม่ขาดมือ ปลดหนี้ ปลดสิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำธุรกิจกับ เก็ทมอร์ อย่างมีความสุขตลอดไป และจะเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกนำพาบริษัทสู่ 120 ล้านบาทให้ได้”
อยากเชิญชวนสำหรับคนที่สนใจเข้าร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น ข้าราชการ พนักงานประจำ คนว่างงาน หรือคนที่กำลังหางานทำ หาธุรกิจเสริมเพิ่มรายได้ หรืออยากเข้ามาเปลี่ยนชีวิต ปลดหนี้ ลองเปิดใจดู คิดวิเคราะห์ แยกแยะ ว่าสิ่งที่พวกเราพูดมันสามารถเป็นไปได้หรือเปล่า ถ้าเข้ามาเรียนรู้และทำอย่างต่อเนื่องไม่หยุด ไม่ล้มเลิกเร็ว การันตีได้ว่าสำเร็จแน่นอน หมดยุคการทำเครือข่ายแล้วขาดทุน ทำแล้วหมดคน เสียเพื่อน ที่นี่ เก็ทมอร์ บีอิ้ง คือที่สุดของบริษัทเครือข่ายยุคดิจิทัล จะนำพาทุกท่านไปสู่อิสรภาพทางการเงิน เวลา และสุขภาพ “การเป็นคนเดิมนั้นง่ายมาก ลองทำอะไรใหม่ ๆ แล้วท่านจะได้อะไรใหม่ ๆ ที่นี่อาจเป็นสิ่งที่คุณตามหามาทั้งชีวิตก็เป็นได้”
