“พีอาร์ไนน์ คอร์ปอเรชั่น” เผยทิศทางการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากประสบปัญหาโควิด-19 ปรับตัวธุรกิจสู่รูปแบบออนไลน์เกือบ 100% โยกระบบออฟไลน์เดิมมาอยู่บนเครื่องมือออนไลน์ สมาชิกสามารถปรับตัวได้ดี พร้อมเดินหน้าจัดโปรโมชั่นแพ็กเกจสินค้าให้มีราคาถูกลงซื้อง่ายขายคล่อง และปีนี้เตรียมจัดโครงการ 9 Body Young Project 2 หนุนเอาใจนักธุรกิจรักสุขภาพ
พงษ์กฤตย์ องค์ศิริวัฒนา รองประธานบริหาร บริษัท พีอาร์ไนน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมในการทำธุรกิจ ในปีที่ผ่านมา เริ่มจากต้นปีที่บริษัทกำลังเข้าสู่จุดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในการทำธุรกิจ แต่หลังจากต้องประสบกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้บริษัทต้องมีการปรับตัวและปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจอย่างทันที เนื่องจากเดิมประมาณ 90% บริษัทเน้นการทำธุรกิจแบบออฟไลน์ มีการจัดประชุมนอกพื้นที่เป็นหลัก และต้องเปลี่ยนการทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงแรกสมาชิกบางคนยังไม่สามารถปรับตัวได้ หลังจากมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างกะทันหัน
“การเปลี่ยนการทำธุรกิจเป็นระบบออนไลน์เกือบ 100% สมาชิกปรับตัวค่อนข้างลำบากในการทำธุรกิจ เราเริ่มจากการปรับเปลี่ยนผู้นำหลัก ๆ ในการเข้ามาเรียนรู้ระบบและทำธุรกิจออนไลน์เป็นหลัก และเมื่อมีการปูพื้นฐานจากบริษัททำให้สมาชิกเริ่มปรับตัวได้และทำงานเป็นระบบมากขึ้น โดยระบบที่เป็นออฟไลน์บริษัทมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาอยู่ในโลกออนไลน์ แต่จะไม่มีการเปลี่ยนชื่องานจากเดิมที่เคยจัดขึ้นประจำ เพราะจะทำให้สมาชิกเดิมไม่มีความคุ้นชิน ซึ่งงานใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นการจัดงานเอ็กซ์โปออนไลน์ที่มีวิทยากร แพทย์ และเภสัชกร มาให้ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ หมุนเวียนสลับกันไปทุกอาทิตย์”
ด้าน นัทธวัฒน์ ธีระวาณิชย์ รองประธาน บริษัท พีอาร์ไนน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีการปรับตัวในเรื่องของออนไลน์ บริษัทมีการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่น และแพ็กเกจผลิตภัณฑ์ให้มีราคาที่ถูกลง เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักและช่วยให้นักธุรกิจและผู้บริโภคสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายและขายคล่อง โดยส่วนใหญ่จะเน้นผลิตภัณฑ์อุปโภค-บริโภคที่มีการใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้หลังจากมีการปลดล็อกการเดินทางจากภาครัฐ บริษัทมีการจัดทีมงานมีการลงพื้นที่ตามสาขาถี่ขึ้น แต่เป็นการจัดกิจกรรมที่ไม่ใหญ่มาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคจะไม่ต้องเดินทางเข้ามาที่สำนักงานใหญ่
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีการเติบโตในปีที่ผ่านมา บริษัทได้คิดกลยุทธ์ Home Shopping ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากสมาชิก เริ่มจากการให้ความรู้นักธุรกิจและผู้บริโภคในเรื่องของผลิตภัณฑ์ และก็มีการจัดโปรโมชั่นสำหรับสมาชิก โดยผลิตภัณฑ์ที่ขายดีมาเป็นอันดับหนึ่ง คือ ผลิตภัณฑ์กาแฟ ตามมาด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร BM-9 และผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ช่วยสร้างภูมิต้านทาน ทำให้สมาชิกมีการซื้อผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องในกลยุทธ์นี้ นอกจากนี้บริษัทยังมีการเปิดพื้นที่ให้กับผู้นำที่ประสบความสำเร็จมาแชร์ประสบการณ์ในการร่วมธุรกิจอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัท
“สำหรับกลยุทธ์ในปีนี้เน้นทั้งการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ 50-50 พร้อมเจาะตลาดคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น และการจัดรายการให้ความรู้กับผู้บริโภคกับรายการ “ใกล้หมอ” ในทุก ๆ 2 สัปดาห์ การจัดรายการ พอดแคสต์ผ่านกรุ๊ปย่อยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิก นอกจากนี้ยังมีการจัดการแข่งขันชาเลนจ์ร่วมกับนักธุรกิจในโครงการ 9 Body Young Project 2 เป็นการดูแลและส่งเสริมให้คนรักสุขภาพ ซึ่งจะมีเทรนเนอร์ดูแลให้ความรู้ผู้เข้าร่วมโครงการอย่างใกล้ชิด” พงษ์กฤตย์ กล่าวสรุป
