ตามที่ ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการถูกฉ้อโกงในคดีแชร์ลูกโซ่ FOREX-3D โดย สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กำชับให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และทำการยึดอายัดทรัพย์ให้มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว ให้ได้รับความเป็นธรรมโดยเร็ว ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับกรณีดังกล่าว ไว้เป็นคดีพิเศษที่ 153/2562 โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนปากคำผู้เสียหายจากการลงทุนจำนวน 8,436 คน มีมูลค่าความเสียหายรวมจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท และเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี เพื่ออายัดทรัพย์สินในการเฉลี่ยคืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป
โดยรายละเอียดแห่งคดีดังกล่าว อภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก ได้ใช้เว็บไซต์ www.forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกลวงโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไปให้นำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex) โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60 – 80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรด Forex ทั้งนี้ การกระทำของ อภิรักษ์ฯ กับพวก เป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ต่อมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการออกหมายจับ อภิรักษ์ฯ และแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลและนิติบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดรวมจำนวน 4 ราย
ล่าสุด ในวันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยการอำนวยการของ พันตำรวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 153/2562 ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง จนพิสูจน์ทราบแหล่งที่หลบซ่อนตัวของ อภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 393/2563 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2563 จึงได้จัดกำลังลงพื้นที่ เพื่อตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว
ผลการตรวจค้นจับกุมที่คอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พบ อภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหา จึงได้จับกุม พร้อมยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก อาทิ รถยนต์ Lamborghini Huracan LP610-4 CO ซี่งเดิมเป็นสีส้ม แต่ผู้ต้องหาได้เปลี่ยนเป็นสีฟ้า มูลค่าประมาณ 24,800,000 บาท สมุดบัญชีเงินฝาก โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาหรู เครื่องประดับ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กระเป๋าแบรนด์เนม เป็นต้น
อนึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินการขยายผลเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายอื่น
ตามหมายจับที่หลบหนีไปอยู่ทั้งในและนอกราชอาณาจักร รวมถึงติดตามยึดอายัดทรัพย์สินจำนวนมากที่ซุกซ่อน เพื่อนำมาเยียวยาผู้เสียหายต่อไป