🔴 THE LEADER
วันนี้เรามาติดตามข่าวคราวนักธุรกิจเครือข่ายอันดับ 1 ของประเทศไทย ธเนตร วงษา ฉายาเจ้าพ่อโปรโมชั่นของวงการกันว่าช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมาเขาเป็นอย่างไรบ้าง ❓ ยังแรงดีไม่มีตกอยู่เหมือนเดิมไหม ❓ และมีเทคนิคอะไรที่จะมาฝากบอกน้องๆ ในวงการเครือข่ายในฐานะพี่ใหญ่กันบ้าง เราจะพาไปอัพเดตกัน
Q : เป็นอย่างไรบ้างสำหรับช่วงโควิดที่ผ่านมา
ดีครับ ดีขึ้นมาก เพราะวิกฤติโควิดทำให้มีหลายคนเข้ามาหาเรา ยอดเพิ่มขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น จากคนหนึ่งได้หลักแสน ก็กลายเป็นสองแสน
Q : อย่างนี้เรียกว่าเป็นแรงเหวี่ยงจากสภาวะวิกฤติหรือเปล่า
ใช่ครับ เพราะวิกฤติโควิดการออกจากบ้านเป็นอะไรที่ต้องห้าม แต่ JEUNESSE เราทำออนไลน์มาตั้งแต่ปี 54 ระยะเวลา 9 ปี ถือว่าแน่นประสบการณ์ มีทีมงานอยู่คนเพิ่งเข้ามาทำได้ 6 เดือนมีรายได้ไปแล้วสองล้านห้า ตอนแรกเขาก็มองอยู่หลายที่ มาถามผม ผมบอกให้มองที่ผลลัพธ์ ถ้าผลลัพธ์ของผู้นำตกลง แสดงว่าธุรกิจมันดาวน์ แล้วเขามาเห็นผมมีรายได้สม่ำเสมอ เลยสงสัยว่าผมได้หกเจ็ดร้อยล้านได้ยังไง เลยบอกเขาว่าเราคือออนไลน์ และเป็นโกลบอล ทำได้ 150 ประเทศทั่วโลก เรียกได้ว่าตลาดมันใหญ่มาก จึงทำรายได้ได้เยอะแบบไม่ต้องออกไปไหนก็ทำได้ทุกที่เลย
Q : มีเทคนิคอะไร พอจะบอกน้องๆ ในวงการได้ไหม
ผมใช้หนังสือที่ผมเขียนเป็นฮาวทู แนะนำคนว่าอ่านหนังสือยังไงได้เดือนละสามแสน อ่านยังไงได้เดือนละล้าน ผมพิมพ์มา 3 แสนเล่มแล้ว คนจะงงว่าทำไมหนังสือผมขายได้เยอะ เพราะผมเอามาขายเล่มละ 30 อย่างถ้าคุณเป็นผู้นำของผม ผมให้คุณคัดคนมาร้อยคน แล้วเราจะทำยังไงให้ร้อยคนนี้รู้เรื่องราวเร็วที่สุดกับการทำธุรกิจ JEUNESSE ผมก็เอาหนังสือส่งให้เลย ถ้าส่งไปให้อ่านแล้วไม่มีใครสมัครให้มาเอาเงินค่าหนังสือคืน เพราะผมเล่าเรื่องราวว่าทำธุรกิจอย่างไรถึงสำเร็จ 3 ปีแรกที่ได้ค่าคอมมิชชั่นร้อยล้านทำยังไง มันอยู่ในหนังสือทั้งหมด
Q : เป็นเพราะจุดแข็งของ JEUNESSE ด้วยหรือเปล่า
ใช่ครับ เพราะ JEUNESSE เลยก็ว่าได้ ทั้งสินค้าที่เป็นนวัตกรรมสเตมเซลส์เจ้าแรกและเจ้าเดียวที่สกัดมาจากคน และผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งเพื่อสุขภาพ และความสวยงาม เป็นสินค้าไม่มีวันตาย ที่สำคัญเจ้าของรวย เลยเอากำไรแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่เขามีสาขาอยู่ 150 ประเทศ ปีที่แล้วได้ยอดห้าหมื่นล้าน ห้าเปอร์เซ็นต์ที่เขาได้ก็สองพันกว่าล้านบาทไปแล้ว แล้วที่นี่มีมูลนิธิที่ตั้งใจเลี้ยงเด็ก 5 ล้านคนทั่วโลก ตอนนี้ใครตำแหน่ง Triple Diamond ต้องร่วมทำบุญบริจาคคนละสามล้านบาท อย่างช่วงโควิดที่ผ่านมาผมก็สมทบทุนไปประมาณสิบกว่าล้าน เพราะบริษัทขอคุยกับผู้นำระดับ Double Diamond ขึ้นไปทั่วโลก ว่าเราจะรวมพลังอย่างไรเพื่อทำให้สมาชิกที่ไม่มีอยู่ได้ ก็สรุปว่าทุกคนก็ตัดคอมมิชชั่นอาทิตย์ละสามแสนห้าหมื่นบาท เพราะถ้าทีมงานไม่สำเร็จ เราก็ไม่สำเร็จ ถูกมั้ย ผมบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้า “อยากรวยให้ทำทาน อยากเป็นตำนานต้องทำธุรกิจที่เป็น Passive Income” ทำเป็นทีม ช่วยเหลือกัน มันถึงจะเวิร์กครับ
Q : รู้สึกอย่างไรที่ถูกเรียกว่า “เจ้าพ่อโปรโมชั่น”
ไม่ใช่ผมหรอกครับที่เป็นเจ้าพ่อโปรโมชั่น JEUNESSE ต่างหากที่มีโปรฯ ให้ตลอด เพราะเป็นโกลบอล และเป็นออนไลน์ที่มีช่องทางครบทุกอย่าง
Q : อย่าง คุณธเนตร เรียกว่าประสบความสำเร็จได้หรือยัง
สำหรับผมมันเกินฝัน เพราะผมตั้งใจเพียงหาบริษัทที่ทำรายได้ให้ Passive Income เดือนละประมาณ 4 ล้านบาท นั่นคือเป้าหมายของผม แต่ตอนนี้มันเกินฝันไปแล้ว เพราะผมเลือกบริษัทถูก ผมทำธุรกิจมาหลายอย่าง แต่ยังไงก็ทำไม่ได้เท่าเครือข่าย ถ้าถามว่ายากมั้ย ยากถ้าไม่เรียนรู้วิธี ซึ่งถ้าเรียนรู้ไม่สำเร็จเท่ากับคุณเรียนรู้ผิดคน แต่ถ้าเรียนรู้ถูกคนแล้วต้องนานพอนะ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา คนส่วนใหญ่ไม่ยอมเรียนรู้ เมื่อก่อนผมเองทำอะไรก็ไม่สำเร็จเพราะไม่ยอมเรียนรู้ ตอนสำเร็จได้ เพราะผมยอมเรียนรู้กับคนที่สำเร็จไงครับ
อ่านแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่เราคิดว่าน่าจะได้ประโยชน์จากการอัพเดตเรื่องราว และเทคนิคการทำงานของเขาไปไม่มากก็น้อย ฉบับหน้าจะไปคุยกับ Leader คนไหน ต้องมาติดตามกัน พบกันใหม่ฉบับหน้า