นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดังกล่าวยังคงขยายตัวออกไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ ในการนี้ สมาคมประกันชีวิตไทยได้ร่วมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) และภาคธุรกิจประกันภัย เกี่ยวกับมาตรการ “เตรียมความพร้อมภาคธุรกิจประกันภัยในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม” โดยออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย ผู้ประกอบการ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทประกันชีวิตได้มีการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัยในการใช้บริการต่าง ๆ เช่น การเรียกร้องสินไหมทดแทนจากกรณีต่างๆ การชำระเบี้ยประกันภัย และบริการอื่น ๆ ที่จะช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยให้ได้รับความสะดวกภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งการใช้บริการขั้นต้นสามารถดำเนินการผ่านช่องทางในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในส่วนของบริษัท สาขา ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ Call Center ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์ แชตบอท เฟสบุ๊ค ไลน์ออฟฟิศเชียล รวมถึงแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่พร้อมให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามธุรกิจประกันชีวิตมีความห่วงใยต่อชีวิตและสุขภาพอนามัย ตลอดจนความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เสี่ยงต่ออุบัติเหตุและโรคร้าย อาทิ โรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม โรคระบบทางเดินอาหาร โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ อหิวาตกโรค โรคบิด ไทฟอยด์ และโรคตับอักเสบ โรคฉี่หนู (หรือโรคเลปโตสไปโรซิส) โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง ไข้เลือดออก รวมถึงอุบัติเหตุและการถูกสัตว์ร้ายมีพิษกัดต่อย เป็นต้น จึงขอให้ทุกท่านระมัดระวังอุบัติเหตุและโรคภัยต่าง ๆ ที่จะมากับอุทกภัยในครั้งนี้
สำหรับผู้มีประกันชีวิตและประกันสุขภาพอยู่แล้ว ขอให้คลายความกังวลใจเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะ สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ เป็นสัญญาที่ให้ความคุ้มครองการรักษาแบบ “ผู้ป่วยใน” หรือ “ผู้ป่วยนอก” ซึ่งคำว่า “ผู้ป่วยใน” หมายถึง ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อการรักษาพยาบาลการบาดเจ็บหรือการป่วย ส่วน “ผู้ป่วยนอก” หมายถึง ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลที่ไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์ต้องเข้าพักรักษาเป็นผู้ป่วยใน ขอให้มั่นใจได้ว่าจะยังคงได้รับความคุ้มครองทุกกรณี ตามจำนวนผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัยภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันชีวิตและ/หรือสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ
ดังนั้น เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับประโยชน์จากการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และให้ได้ประโยชน์สูงสุดในสถานการณ์น้ำท่วมนั้น ขอให้ผู้เอาประกันภัยทุกท่านตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ของท่านให้ยังมีผลบังคับใช้อยู่เสมอ และระมัดระวังคัดกรองข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ โดยเฉพาะจากช่องทางโซเชียลมีเดีย และระมัดระวังในการส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด จนนำไปถึงการแอบอ้างหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยเฉพาะการชำระเบี้ยประกันภัยควรได้รับใบเสร็จรับเงินทุกครั้ง ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้การเดินทางไปทำธุรกรรมด้วยตนเองไม่สะดวกนัก ท่านสามารถใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น โมบายแบงก์กิ้งได้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดต่าง ๆ ได้จากบริษัทที่ท่านได้ทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือที่สมาคมประกันชีวิตไทย โทร. 02-6798080 หรือ e-mail : tlaa@tlaa.org