“ธุรกิจเครือข่ายเราคือเจ้าของธุรกิจ ฉะนั้นความสำเร็จมันถูกขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายและความฝัน เจ้าของธุรกิจต้องรู้ว่าเรามีเป้าหมายชีวิตแบบใด ความฝันสูงสุดของเราคืออะไร ดั่งคำพูดที่ว่า “ต้องเริ่มต้นด้วยจุดจบ” ค้นหาคนที่มีความฝันเหมือนกับเราแล้วสร้างให้เขาเป็นผู้นำ ให้ผู้นำไปสร้างผู้นำชั้นต่อ ๆ ไป ยิ่งสร้างผู้นำได้มากความสำเร็จยิ่งมั่งคั่งและมั่นคง ธุรกิจเครือข่ายไม่สามารถประสบผลสำเร็จด้วยตนเองเพียงคนเดียว เพราะทีม คือ พลังของเครือข่าย”
กองแพง – พุดอานง ขุนลอวันไช ตำแหน่ง RCSD รหัสที่สองของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากบริษัทที่มีความมั่งคงมาอย่างยาวนาน “คังเซน – เคนโก” ทั้งคู่ต่างมีชีวิตที่ลำบาก แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ที่จะทำตามฝันของตัวเอง คือ การดูแลให้ครอบครัวได้สุขสบาย และทำตนเองให้มีอิสรภาพทางด้านเวลาและรายได้ จึงเข้ามาเรียนรู้ในธุรกิจคังเซน ที่ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์ หรือต้นทุน แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้โดยมีคติว่า “ต้องเรียนรู้ และลงมือทำ”
มาเริ่มทำความรู้จักทางด้านฝ่ายชายกันก่อน คือ กองแพง เขาเกิดในครอบครัวชาวนา มีความฝันอยากมีชีวิตที่สุขสบายแบบไม่ต้องทำนา เลยต้องสู้เพื่อให้ เรียนจบ ม. 6 จนได้รับทุนการศึกษา ที่วิทยาลัยกฎหมายภาคใต้ ในระดับปริญญาตรีด้านกฎหมายแพ่ง ช่วงที่กำลังศึกษา ก็พยายามหาลู่ทางอยู่ตลอดเวลา ว่าจะทำยังไงให้ชีวิตดีขึ้น และมีรายรับเข้ามาเพื่อส่งตนเองเรียน ถ้าไม่อย่างนั้นต้องเรียนไม่จบอย่างแน่นอน จนมีวันหนึ่งหลังจากกลับจากเล่นกีฬา เพื่อนที่อยู่หอพักเดียวกันได้ชักชวนให้ไปฟังธุรกิจเครือข่าย “คังเซน” มีโอกาสได้ฟังโมเดลธุรกิจและแผนรายได้ เลยมีความคิดว่าถ้าเป็นไปได้ ชีวิตจะต้องร่ำรวยอย่างแน่นอน แต่ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ก็อยู่แบบเดิมซึ่งไม่ได้เสียหายอะไร เขาจึงเข้าไปเรียนรู้และลงมือทำจนประสบความสำเร็จกับ บริษัท คังเซน – เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
“เพราะเป้าหมายการศึกษาของผม คือ การทำให้ชีวิตประสบผลสำเร็จมีชีวิตที่ดีขึ้น หลังจากได้มาศึกษาในธุรกิจคังเซน ผมจึงเข้าใจชีวิตที่อยากจะเป็นมากขึ้นโดยเฉพาะการที่เราได้มีเวลาดูแลตนเอง, การได้ช่วยเหลือผู้คน, การได้ท่องโลกกว้าง, มีความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงิน, ใช้เวลาทำตามใจชอบ, มีฝันที่เป็นจริงอย่างรวดเร็ว สามารถมีทรัพย์สินและมรดกให้กับคนรุ่นหลัง โดยไม่ต้องลงทุนมากมาย ไม่มีความกังวล ซึ่งเริ่มแรกเราก็ยังไม่มั่นใจว่าจะไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่ เพราะเป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ ไม่มีต้นทุนอะไรเลย แต่โชคดีระบบธุรกิจเครือข่ายเป็นโอกาสที่ดีที่สุด สามารถพัฒนาคนด้านแนวคิดและวิธีการ ทำให้ผมสามารถสำเร็จได้ เพราะเอาตัวเองเข้ามาศึกษาและลงมือทำ นี่คือเหตุผลที่เน็ตเวิร์ก สามารถสร้างความสำเร็จได้ ทุกคนที่มีความฝันจึงตัดสินใจทำธุรกิจนี้ เพื่อเป้าหมายชีวิตที่ดีขึ้น ผมใช้เวลาเพียง 2 ปี 10 เดือนก็ก้าวสู่ความสำเร็จมีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 25 ปี จนถึงปัจจุบันไปเที่ยวมาแล้ว 8 ประเทศทั่วโลก”
มาทางด้านฝ่ายหญิง คือ พุดอานง กันบ้าง เธอคนนี้เกิดจากครอบครัวที่บิดาทำธุรกิจส่วนตัว จึงเห็นความลำบากของบิดามาโดยตลอดตั้งแต่จำความได้ ช่วงเทศกาลยิ่งขายดีไม่มีโอกาสได้ไปไหน บิดาเลยไม่อยากให้ลูกต้องมาลำบาก จึงปลูกฝังให้เรียนสูง ๆ เพื่อจะได้มีงานทำแล้วชีวิตจะดีขึ้น จนส่งให้เธอมาเรียนต่อที่วิทยาลัยการเงิน ภาคใต้ สายการเงินการบัญชี ซึ่งมีความคิดว่าถ้าทำงานเกี่ยวกับเงินน่าจะรวย แต่พอเธอเห็นรุ่นพี่ที่ทำงานมาหลาย 10 ปียังมีชีวิตที่ลำบาก จึงคิดว่าไม่ใช่เป้าหมายแท้จริงที่เธอต้องการ
“ดิฉันไม่อยากทำงานไปตลอดชีวิต อยากเหนื่อยแค่ชั่วคราวแล้วสบายชั่วโคตร ไม่อยากเหนื่อยชั่วโคตรแล้วสบายชั่วคราว มารู้จักกับธุรกิจเครือข่ายจากการแนะนำของเพื่อนในหอพักเดียวกัน เคยปฏิเสธธุรกิจนี้มา 2 ปี คิดว่าเราไม่เหมาะ คนที่ทำได้ต้องสวย ต้องเก่ง ประสบการณ์สูงเลยปฏิเสธไป แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเลือกธุรกิจคังเซน เพราะอยากใช้เวลาสั้น ๆ สร้างชีวิตแล้วเอาเวลาที่เหลือมาใช้ชีวิตให้เต็มที่ จึงพาตนเองเข้าระบบและ ลงมืออย่างต่อเนื่องจนทำให้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่ง RCSD คนที่สองของประเทศลาว มีโอกาสซื้อรถยนต์ ที่ดิน สร้างบ้านพร้อมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศทุกปี ไม่ต่ำกว่า 8 ประเทศทั่วโลก มีรายได้หกหลักต่อเดือน ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้เปิดโอกาสมา ณ ที่นี้ คือ คุณแก้วมณีใส และคุณอุทอน นันทะลาด, คุณคำหล้า ไซยะลาด, คุณจิดตะกอน และคุณลำพอน ไซยะลาด, คุณบัววัน และคุณปาวีนา ไซยะคาม ที่เป็นต้นแบบ คอยสอนวิธีคิดและวิธีการให้อย่างต่อเนื่อง จนมีวันนี้ได้ อีกทั้งขอขอบคุณ บริษัท คังเซน-เคนโกฯ ประธานผู้ก่อตั้ง ท่านคมศักดิ์ธนา อำพันธ์ยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร ท่าน ดร.ณัฐพัชร์ อำพันยุทธ์ และผู้บริหารฝ่ายลาว ท่านไซซะนะ ไซสุลิวง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ท่านประเวศ หัตถกอง ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่านสยาม โลหิตเสถียร และพนักงานทุกคนที่ทุ่มเททำงานหนักร่วมกัน ทุกอย่างเกิดจากความมุ่งมั่นและตั้งใจ”
คนที่สำเร็จจะรู้วิธีการสำเร็จ แนวทางใดที่ทำแล้วทำให้เราสำเร็จ ต้องคิดแบบใด ปฏิบัติแบบใด คนสำเร็จจะรู้ทุกอย่างที่ทำให้เราไปถึงเป้าหมาย แต่คนที่ล้มเหลวจะรู้เพียงอย่างเดียวคือไม่สำเร็จ เพราะเขาเองก็ไม่เคยสำเร็จเลย เราอยากเป็นคนสำเร็จหรือคนล้มเหลวดั่ง สุภาษิตที่ว่า “ตกหมู่แห้งเป็นแห้ง ตกหมู่กาเป็นกา” ถ้าเราอยู่ในบรรยากาศคนสำเร็จเราก็จะสำเร็จ อยู่กับบรรยากาศที่เป็นพิษร่างกายก็จะได้รับสารพิษ จงตั้งเป้าหมายให้ถึงดวงอาทิตย์ ลงมือให้สุดชีวิตถ้าไม่ถึงอย่างน้อยก็ยังเป็นหมู่ดวงดาว ทั้งคู่กล่าวทิ้งท้าย
