พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศเกาหลีและประเทศไทยมาเข้าร่วมในการสัมมนา และมีการแสดง การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ อันเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อาทิ การนำเสนอบทบาทของ AI ในการรักษา เช่น การใช้ AI ทำนายโรคจากข้อมูลทางพันธุกรรม หรือการใช้ AI ช่วยในการแปลงภาพทางการแพทย์ เป็นต้น ทั้งยังมีการนำเสนอผลการทดลองใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ทางโรงพยาบาลได้ร่วมพัฒนากับบริษัทของประเทศเกาหลีอีกด้วย”
รองศาสตราจารย์แพทย์หญิง รวีรัตน์ กล่าวต่อไปว่า “ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่มโรงพยาบาลและบริษัทพันธมิตรของเรา ยังมีการนำเสนอมุมมองต่อเทคโนโลยีทางการแพทย์ของบริษัทจากประเทศเกาหลี ที่ได้ให้ทางโรงพยาบาลได้ทดลองใช้ ทั้ง โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, โรงพยาบาลกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลนวเวช, BBH Hospital และโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง ร่วมกับบริษัทจากประเทศเกาหลี ได้แก่ บริษัท MTEG ในเรื่อง Surgical Video Platform, บริษัท Curaum ในเรื่อง Oral environment originated healthcare solution , บริษัท QTT ในเรื่อง Easy Detection of Oral Diseases by Using Artifical Intelligence and Big Data Required From It, บริษัท CRESCOM ในเรื่อง AI Medical Solutions for Musculoskeletal System and Child Growth, บริษัท EMOCOG ในเรื่อง Digital Screening Tools for Dementia and ADHD, และ บริษัท Ichrogene ในเรื่อง AI Disease Predicting based on Genome Big Data”
“เราเชื่อว่า ในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาททางการแพทย์มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการ ในฐานะหนึ่งในสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำของเมืองไทย เราจะมุ่งมั่นต่อยอด และพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่ออุตสาหกรรมทางการแพทย์ ทั้งจะส่งเสริมการบูรณาการเทคโนโลยี AI ขั้นสูงในการดูแลสุขภาพเพื่อให้โรงพยาบาลพระรามเก้า เป็นโรงพยาบาลเอกชนผู้นำทางด้าน Digital healthcare เพื่อเป็น digital hospital อย่างเต็มรูปแบบโดยแท้จริง” นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ ทิ้งท้าย