ไทยพาณิชย์ โพรเทค เปิดแผนธุรกิจปี 2566ต่อยอดทิศทางแบงก์แม่ จับโจทย์ผลิตภัณฑ์ประกันเป็นหนึ่งในรากฐานการสร้างความมั่งคั่ง พร้อมมอบประสบการณ์บริการที่เชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อจากทุกช่องทางสู่ทุกภูมิภาคจากการวางระบบรากฐานข้อมูลเทคโนโลยีจากสำนักงานใหญ่ เพื่อการให้บริการที่เข้าใจง่ายและใส่ใจ ครอบคลุมทั่วพื้นที่สำคัญในประเทศไทยเพื่อการเติบโตระยะยาว ประเดิมเปิดศูนย์กลางการดำเนินงานภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ เป็นแห่งแรก เพื่อสนับสนุนศักยภาพงานขายและบริการเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันกลุ่มราคาสุดคุ้ม เพื่อช่วยตั้งต้นวางแผนชีวิตอย่างมั่นคงสำหรับกลุ่มอาชีพอิสระ โดยออกแบบประกันกลุ่มอุบัติเหตุสุดคุ้มเริ่มต้นเพียง 225 บาทต่อปี นำร่อง 5 องค์กรภาคธุรกิจและท่องเที่ยวเชียงใหม่ ตั้งเป้าผลักดันเบี้ยรับรวมและรายได้ปี 2566 โต 200%
ปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า “จากการวางรากฐานการทำงานเพื่อสร้างการเจริญเติบโตในช่วงที่ผ่านมาการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองที่คุ้มค่าและพัฒนาช่องทางการติดต่อลูกค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มแมสเข้าถึงความคุ้มครองที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะช่องทางประกันออนไลน์ (Digital Insurance) https://online.scbprotect.co.th/ ส่งผลให้บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่มียอดกรมธรรม์ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในตลาด ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 200% ต่อเดือน บริษัทมีผลประกอบการที่โดดเด่น โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีเบี้ยรับรวม 1.7 พันล้านบาท และฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 1.8 แสนราย”
ในปี 2566 นี้ บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค ตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยกำหนดกลยุทธ์สอดรับกับกลยุทธ์ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ประกาศเป็น “ดิจิทัลแบงก์ที่เป็นอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทาง” ด้วยการวางโครงสร้างการให้บริการและการวางระบบรากฐานข้อมูลเทคโนโลยี IT infrastructure ให้สามารถรองรับการให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ (Omni-Channel) จากช่องทางการขายที่แตกต่างกัน เป็นการผสานความสะดวกสบายในการเข้าถึงความคุ้มครองผ่านทางดิจิทัลกับการดูแลและให้บริการลูกค้าด้วยใจจากพนักงานทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึงการพัฒนา AI ในการเรียนรู้และวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และค่าเบี้ยที่คุ้มค่าผ่านช่องทางการขายที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละราย และการขยายเครือข่ายสู่ภูมิภาคหลัก โดยจะทยอยเปิดศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ประเดิมภาคเหนือ จ.เชียงใหม่เป็นแห่งแรก โดยตั้งเป้าภูมิภาคจะมีส่วนผลักดันให้เบี้ยรับรวมและรายได้ปีนี้เติบโต 200%
“เชียงใหม่เป็นเมืองหลักของธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวของประเทศไทย และตลาดแรงงานปรับดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 จังหวัดเชียงใหม่ ในไตรมาสแรกของปี 2566 เติบโต 30%*1 อีกทั้งยังพบว่าหลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้นนั้น มีแรงงานกลับคืนถิ่นจำนวนมาก และต้องการมีอาชีพที่มั่นคง จนปัจจุบัน ศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภาคเหนือ มีพนักงาน รวมทั้งสิ้น 450 คน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ลงนามความร่วมมือกับ 5องค์กรภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ สมาพันธ์ SME ไทย จังหวัดเชียงใหม่ สมาคมส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการไทยจังหวัดเชียงใหม่ ATED.CM และสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) สนับสนุนผลิตภัณฑ์ประกันกลุ่มราคาพิเศษสุด เพื่อช่วยตั้งต้นวางแผนชีวิตอย่างมั่นคงสำหรับกลุ่มอาชีพอิสระเกี่ยวกับธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจหลักของภาคเหนือสามารถเข้าถึงประกันที่จำเป็นได้ในราคาคุ้มค่า”
นางสาวปรมาศิริ กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมมือกับ ซันเดย์ ประกันภัย บริษัทอินชัวร์เทคชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ SCB 10X ถือหุ้นอยู่ พัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบที่ทันสมัยเหมาะกับลูกค้าในยุคดิจิทัลที่สามารถรับความคุ้มครองง่ายๆ ผ่านมือถือ ออกประกันกลุ่มอุบัติเหตุสุดคุ้ม(Group Personal Accident) ประกันพื้นฐานความคุ้มครองสำหรับความเสี่ยงในการใช้ชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นได้บ่อยสำหรับทุกวัย โดยสามารถทำได้ทั้งพนักงานองค์กร สมาชิกในองค์กรและครอบครัวของคนในองค์กร ด้วยค่าเบี้ยเริ่มต้นเพียงปีละ 225 บาท รับความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 100,000 บาท และอีกไฮไลต์สำคัญคือประกันกลุ่มอุบัติเหตุ PA แผน 6 ที่มีค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุครั้งละ 5,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 500,000 บาท ด้วยค่าเบี้ยเพียง 1,180 บาทต่อปี นอกจากนี้ ยังมีประกันกลุ่มรถทัวร์ รถตู้ ประกันทรัพย์สินและโรงงาน ให้บริการอีกในลำดับถัดไป การขยายเครือข่ายสู่ภูมิภาคนี้ บริษัทตั้งเป้าสร้างเบี้ยรับเพิ่มภาคละ 720 ล้านบาทต่อภาคต่อปี
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภาค โดยภาคถัดไป คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่น โดยจะเริ่มรับสมัครทีมงานในไตรมาส 3 ของปีนี้กว่า 300 อัตรา จุดเด่นของงานเช่น งานเทเลเซลล์ คือ เป็นสัญญาจ้างพนักงาน มีเงินเดือนประจำ เบี้ยขยัน ค่าคอมมิชชั่นตามผลงาน รางวัลพิเศษตามแคมเปญ และสวัสดิการต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทยังส่งเข้าอบรมและส่งสอบใบอนุญาตโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นต้น โดยรับทั้งผู้ที่มีประสบการณ์งานขายประกันและนักศึกษาจบใหม่ บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเช่นที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สนใจสามารถแอดไลน์ @scbprotect เพื่อติดตามประกาศเกี่ยวกับการรับสมัครงานและโปรโมชั่นประกันดีๆ คุ้มๆ ได้ตลอดทั้งปี
บริษัทฯ มีแนวทางที่สอดคล้องกับแบงก์แม่ คือ การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทาง โดยยึดหลักการดูแลด้วยใจและใส่ใจบริการ ด้วยการบริการที่หลากหลายช่องทาง นำโดย 1314 SCB Protect Customer Service Center เป็นศูนย์กลางการให้บริการหลังการขายและตอบคำถามเกี่ยวกับประกันจากทุกช่องทาง ความสามารถในการรองรับการให้บริการจาก 200 คนต่อเดือนในช่วงเริ่มต้น เป็น 200 คนต่อวันในปี 2566 ช่องทางดิจิทัลอย่างLINE Official Account (LINE OA) SCB Protect, Facebook SCB Protect และอีเมล และในปี 2566 นี้ ได้เชื่อมต่อระบบประกันออนไลน์ และประกันรถยนต์ทางโทรศัพท์เข้ากับ LINE OASCB Protect ทำให้สามารถสอบถามเกี่ยวกับประกันที่สนใจ ทำรายการซื้อจนจบจ่ายเงิน และรับความคุ้มครองผ่านทางไลน์ได้อย่างปลอดภัยเป้าหมายสำคัญคือการเชื่อมต่อทุกระบบเพื่อเป็น One-Stop Service ในการให้บริการลูกค้าสำหรับทุกประเภทประกัน เพื่อให้คนไทยเข้าถึงประกันที่ต้องการได้ในราคาที่คุ้มค่า ผ่านการบริการที่สะดวกรวดเร็วในปี 2567