“สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย” (TDIA) ครบรอบ 21 ปี ปรับโฉมใหม่ตอกย้ำความยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ “รีแบรนด์ก้าวสู่ความมั่นคง” ชู “4 ค่านิยมหลัก TDIA” เปิดพันธกิจแผน “3S” วาง Road Map “7 ทิศทาง” สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ เตรียมดึงพันธมิตรอุตสาหกรรมอื่นร่วมสมาคมฯ หวังยกระดับธุรกิจเครือข่าย สร้างการรับรู้เชิงบวกสู่ทุกภาคส่วน
พงษ์กฤตย์ องค์ศิริวัฒนา นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (THAI DIRECT SALE INDUSTRIAL ASSOCIATION : TDIA) เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ สมาคมฯ ได้เปิดดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 21 ปี ด้วยความมั่นคง และขับเคลื่อนด้วย “วิสัยทัศน์” ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมปลูกฝังจิตวิญญาณ การเป็นผู้ประกอบการ นักธุรกิจขายตรงที่มีคุณธรรมและจรรยาบรรณเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อผู้บริโภค ร่วมกันสร้างความดีตอบแทนสังคม อันจะนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดีของวงการธุรกิจขายตรงโดยรวม
ปีนี้สมาคมฯ มีนโยบายที่จะสานต่อวิสัยทัศน์เดิมของคณะกรรมการผู้ก่อตั้ง มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยกลยุทธ์ “รีแบรนด์ก้าวสู่ความมั่นคง” มีเป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมขายตรงและตอกย้ำความมั่นคงของสมาคมฯ สร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัทสมาชิก ภาครัฐและประชาชนผ่าน “Core Values” หรือ “ค่านิยมหลัก” ของสมาคมฯ ได้แก่
T : TEAM WORK ความสามัคคีของการทำงาน บนพื้นฐานความอบอุ่นเหมือนคนในครอบครัว
D : DEVELOPMENT การพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีใหม่ในสมาคมฯ และสมาชิกสมาคมฯ
I : INTEGRATION เป็นศูนย์กลางในการบูรณาการความรู้ร่วมกันของภาครัฐ สมาชิกสมาคมฯ นักธุรกิจและผู้บริโภค
A : ACCOUNTANT การดำเนินธุรกิจบนความรับผิดชอบและการช่วยเหลือสังคม
นายก TDIA กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อให้การสื่อสารมีความชัดเจนและทันยุคสมัยมากขึ้น สมาคมยังได้มีการเปลี่ยนแปลง ตราสัญลักษณ์ (LOGO) เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของสมาคมฯ โดยใช้ MOOD & TONE ของสีหลักคือ “น้ำเงิน” ที่สื่อถึงความมั่นคง “ชมพู” สื่อถึงความโปร่งใสและทันสมัย ทั้งยังมีการปรับรูปแบบให้เห็นอักษรย่อ “TDIA” ให้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย โดยตราสัญลักษณ์ดังกล่าว บริษัทสมาชิกสมาคมทุกองค์กรสามารถนำไปใช้ตีตราบนสินค้าหรือสื่อต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อเป็นการการันตีว่า เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีมาตรฐาน และเชื่อถือได้อีกทางหนึ่งด้วย”
การรีแบรนด์ในครั้งนี้ คณะกรรมการสมาคมยังมีการวางแผนดำเนินงานใหม่ภายใต้ “พันธกิจ 3S” ได้แก่
1. SUSTAINABLE การดำเนินการที่มุ่งมั่นตอกย้ำการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนของสมาคมฯ
2. SHARING มุ่งเน้นการแบ่งปันข้อมูล ข่าวสารที่ดี และเป็นประโยชน์ในกลุ่มบริษัทสมาชิกสมาคมฯ และผู้บริโภค
3. SERVICE อาสาเป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือและประสานงานให้กับทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกสมาคมฯ ภาครัฐ และประชาชนทั่วไป
โดยจะดำเนินงานด้วย “Roadmap” 7 ทิศทางสำคัญ ได้แก่
1. เน้น Create Branding TDIA มุ่งสร้างการรับรู้แบรนด์ของสมาคมออกไปสู่ภายนอกให้มากขึ้น
2. ถ่ายทอดเจตนารมณ์ของสมาคม Core Value (Family & Warmth ความอบอุ่น) ที่มีความอบอุ่นความสามัคคีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไปสู่บริษัทสมาชิกใหม่
3. สร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ Business Matching ด้วยการเปิดรับสมาชิกใหม่จากกลุ่มธุรกิจอื่นเข้าสู่สมาคมฯ จากเดิมมีอยู่ประมาณกว่า 20 บริษัทให้เพิ่มขึ้นเท่าตัวในอนาคต
4. การทำ CSR กิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง
5. Learning & Growth เดินหน้าเป็นศูนย์กลาง ในการให้ความรู้เกี่ยวกับ Trend & Digital กลยุทธ์การปรับตัวในโลกปัจจุบันให้กับสมาชิกสมาคม
6. การปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบบออนไลน์ ของสมาคมฯ ให้ทันสมัยและสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
7. สานต่องานของสมาคมฯ ที่ทำอยู่ในอดีตให้เดินหน้าได้ต่อเนื่องและพัฒนาส่วนอื่นเพิ่มขึ้น
ทางด้าน ณพวัฒน์ สัตย์เพริศพราย เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ได้อยู่เคียงข้างสังคมไทยมาตลอด 21 ปี ช่วยยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมไปพร้อมกับการใส่ใจ ดูแลสังคมและคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค โดยต่อจากนี้ยังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมและแก้ปัญหาของประกอบการ 3 ด้าน ได้แก่
1. ออกนโยบายและกิจกรรมที่เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ “แบรนด์”
2. ช่วยวางกลยุทธ์สร้างความเชื่อมั่นกับ “คุณภาพ” ผลิตภัณฑ์
3. เดินหน้าสร้างการรับรู้แบรนด์ TDIA Distributor Recognition
ซึ่งการรีแบรนด์ “Corporate Brand ใหม่” องค์กรสู่ก้าวใหม่ ถือเป็นการปรับโครงสร้างสมาคมฯ ให้เป็นมากกว่าธุรกิจขายตรง เพื่อช่วยผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมขายตรงไทย ให้มีความมั่นคงและยั่งยืน โดดเด่นเทียบเท่ากับอีกหลากหลายธุรกิจในสังคมไทย
“เรามีการสานต่อนโยบายกันอย่างต่อเนื่อง จากเจเนอเรชั่นเก่ามาสู่เจเนอเรชั่นใหม่แบบไม่สะดุด นำจุดแข็งทางประสบการณ์ของคนรุ่นเก่า มาเสริมและพัฒนาด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมที่เป็นจุดแข็งของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว ขณะที่ยังคงไว้ซึ่ง Core Value หลักของสมาคมฯ คือความจริงใจและความอบอุ่น จนสร้างเป็นความเชื่อมั่นในการพัฒนาธุรกิจให้มีการเติบโตร่วมกันได้อย่างยั่งยืน”
ปีนี้หัวใจสำคัญ สมาคมฯ จะร่วมกันก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็น “ศูนย์กลางการเรียนรู้” ของทุกภาคส่วนให้ได้ โดยตนได้เข้ามาช่วยวางระบบออนไลน์ใหม่ เพราะเล็งเห็นว่าเป็นช่องทางสำคัญและต้องถูกพัฒนาโดยเร่งด่วน เพื่อพาธุรกิจก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลใน 3 แนวทาง ได้แก่
1. พัฒนาความรู้การทำการตลาด “ออนไลน์”
2. สร้างฐานข้อมูลการทำตลาดแบบตรง และขายตรง
3. การนำเสนอทักษะจำเป็นของนักขายอิสระ รวมไปถึงการเร่งพัฒนา ธุรกิจแพลตฟอร์มเครื่องมือออนไลน์ เพื่อช่วยติดอาวุธให้นักธุรกิจที่อยู่ในบริษัทสมาชิก โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับ Certified Google เข้ามาดูแลและช่วยพัฒนาระบบอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน
“เว็บไซต์ของสมาคมฯ จะถูกพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมสร้างโมบายแอปพลิเคชัน ให้สามารถรองรับการทำงานได้ในทุกแพลตฟอร์ม เพื่อรองรับบริษัทสมาชิกใหม่ทั้งในกลุ่มธุรกิจขายตรงและกลุ่มธุรกิจอื่น ที่จะเข้ามาร่วมสมาคมฯ ในอนาคตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” เลขาธิการสมาคม TDIA กล่าว
อย่างไรก็ตาม การรีแบรนด์ของ TDIA ในครั้งนี้ ถือเป็นการปรับทัพครั้งใหญ่ที่น่าจับตามอง เพราะในยุคที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจสูง อุตสาหกรรมขายตรงยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญของผู้ริโภค ที่จะใช้ในการสร้างอาชีพที่มั่นคงและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้ การปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก การพัฒนาเครื่องมือ ระบบ และนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ที่แน่นแฟ้นให้เกิดขึ้นในองค์กร ไม่ใช่เพียงเพื่อรองรับแค่คนกลุ่มเก่า แต่เพื่อรองรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามาสู่อุตสาหกรรมด้วย อันจะนำไปสู่การพัฒนาวงการนี้ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริงอย่างไรก็ตาม การรีแบรนด์ของ TDIA ในครั้งนี้ ถือเป็นการปรับทัพครั้งใหญ่ที่น่าจับตามอง เพราะในยุคที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจสูง อุตสาหกรรมขายตรงยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญของผู้บริโภค ที่จะใช้ในการสร้างอาชีพที่มั่นคงและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้ การปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก การพัฒนาเครื่องมือ ระบบ และนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ที่แน่นแฟ้นให้เกิดขึ้นในองค์กร ไม่ใช่เพียงเพื่อรองรับแค่คนกลุ่มเก่า แต่เพื่อรองรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามาสู่อุตสาหกรรมด้วย อันจะนำไปสู่การพัฒนาวงการนี้ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง