CCI เติบโตสวนกระแสโควิด-19 สามารถสร้างยอดขาย 350 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมสินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดงานใหญ่ส่งท้ายปีพิธีประดับเข็มเกียรติยศนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จภายใต้ธีม BLACK TO THE LIGHT มีนักธุรกิจเข้ารับรางวัลกว่า 200 รหัส เดินหน้าพัฒนาธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ O2O Online to Offline สู่ความยั่งยืน
ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ประธานกรรมการ บริหาร บริษัท ซีซีไอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า CCI ธุรกิจด้านนวัตกรรมสมุนไพรเพื่อสุขภาพของคนไทยที่มั่นคงและยั่งยืน ในครั้งนี้เป็นการจัดงานเกียรติยศพิธีประดับเข็มนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการสร้างธุรกิจร่วมกับบริษัทและการร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ ภายใต้ธีม BLACK TO THE LIGHT โดยภายในงานจัดขึ้นอย่างอลังการ มีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จกว่า 200 รหัส เข้ารับรางวัลในครั้งนี้ พร้อมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ CCI ที่เป็นนวัตกรรมระดับโลก เพื่อตอกย้ำความเป็นหนึ่งด้านสมุนไพรไทยและการเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังชูกลยุทธ์ใช้ O2O Online to Offline ในการเดินหน้าธุรกิจในปี 2565 และการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมออกสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง
“ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่โชคดีที่บริษัทมีการปรับตัวเป็นระบบออนไลน์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เราปรับตัวก่อนเจอโควิด-19 อย่างสมาชิกสมัยก่อนที่เขาปรับตัวไม่ได้ เพราะโลกมันเปลี่ยน รูปแบบแพลตฟอร์มมันเปลี่ยนหมด และเราก็รองรับจนถึงทุกวันนี้ พอเราเจอโควิด-19 ขึ้นมาเราก็สามารถไปได้ และเรามีผลิตภัณฑ์ที่เป็นแชมเปี้ยนอยู่แล้ว มันเป็นสินค้าที่เป็นปัจจัยที่ทุกบ้านต้องขาดไม่ได้ นอกจากนี้สมาชิกเราก็ยังต้องมีการเติบโต เช่น มีการซื้อบ้าน ซื้อรถ ซึ่งถือว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันนี้ถือเป็นจุดแข็งของบริษัทนอกจากนี้เรามีบริษัทดีท็อกซ์ที่เป็นบริษัทแม่คอยหนุนหลังอยู่ ในเรื่องของสินค้า เพราะบริษัทดีท็อกซ์นั้นเราโตมาจาก R&D มีนักวิจัยประมาณ 30 คน จบทั้งไทยและต่างประเทศ ระดับปริญญาเอก ซึ่งตรงนี้ทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยสินค้า นอกเหนือจากนี้เราก็มีการพัฒนาสินค้าเพื่อต่อยอดออกไปอีก”
ทั้งนี้ บริษัทมีระบบ Dropship ที่ช่วยให้การทำธุรกิจนั้นง่ายขึ้นในช่วงโควิด-19 เพื่อสนับสนุนนักธุรกิจไม่ต้องสต๊อกของ ไม่ต้องแพ็กส่งสินค้าเอง ทั้งประหยัดเวลา ทำงานง่าย สร้างรายได้แม้วันหยุด CCI Dropship บริการด้วยใจ ส่งไวตรงเวลา เป็นอีกช่องทางสร้างรายได้แบบ Non-Stop ซึ่งการย้ายสำนักงานใหม่มีการลงทุนสร้างโกดังสินค้าใหม่เพิ่ม โดยระบบ Dropship บริษัทได้ลงทุนซื้อรถยนต์ขนส่งมาใหม่เพิ่มอีก 3 คัน โดยสมาชิกสั่งสินค้าในตอนเช้า ตอนบ่ายก็จะได้รับสินค้าในเขตกรุงทพฯ และปริมณฑล แต่ถ้าเป็นการจัดส่งสินค้าเล็ก ๆ บริษัทก็จะร่วมกับบริษัทขนส่งชั้นนำทั้ง PNT และ Kerry เป็นต้น เพื่อบริหารจัดการต้นทุนในการขนส่งที่ถูกลงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในปีนี้ เนื่องจากทุกบริษัทก็เจอศึกหนักมาตลอด 2 ปีเต็ม คาดว่าปีหน้าโควิดน่าจะเบาบางลงเชื่อว่ากระแสของธุรกิจเครือข่ายจะกลับมาเปรี้ยงปร้างอีกครั้ง พร้อมกลยุทธ์ในการเดินหน้า สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบไปด้วย
- 1. เรื่องความเป็นหนึ่งของสินค้านวัตกรรมออกมาอย่างต่อเนื่อง และสินค้านั้นต้องตอบโจทย์จริง ๆ ใช้แล้วได้ผลจริง
- 2. บริษัทสร้างเครื่องมือออนไลน์ ทั้งในแง่ของการถ่ายทอดสด ไลฟ์สด คอนเท้นต์ต่าง ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนนักธุรกิจ และการสร้างคอร์สเรียนออนไลน์ ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ทางบริษัทได้วางแผนมาก่อนล่วงหน้าหมดแล้วและจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 400-500 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมาสามารถปิดยอดขาย 350 ล้านบาท
“สำหรับโครงการ I Master ซึ่งถือเป็นตัวโครงการที่เราวางแผนรองรับการทำธุรกิจในปีนี้ และเราได้เริ่มปูพรมไปก่อนแล้วเฉพาะชุดถ่ายทอดสด เราลงทุนไป 2 ล้าน เรามีการเตรียมบุคลากรมา 3 ปีแล้ว ในแง่ของคอนเท้นต์ กราฟฟิกต่าง ๆ ที่เราต้องคิดให้เขาทั้งหมด ในแง่ของการทำธุรกิจเครือข่ายนับจากนี้ไป เราต้องใช้ O2O Online to Offline ในแง่ของการสรรหาคน เราใช้แบบ Online Recruit การบริหารจัดการคนเราจะใช้แบบ Offline รัฐบาลก็มีในแง่ของการส่งเสริมชุมชน เพื่อทำสินค้าให้ชาวบ้านเกิดมีรายได้”