วันที่ 9 มีนาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก. ปคบ., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปอท. รรท.รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก. ปคบ., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอศ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.กฤษฎาพร ปานโปร่ง รอง ผบก.ปอศ. ,พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปอศ. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานกรณีทลายแหล่งจำหน่ายเครื่องสำอางปลอมยี่ห้อดังจำนวนมาก โดยลวงขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจยึดของกลางจำนวน 19 ยี่ห้อผลิตภัณฑ์ มูลค่ากว่า 30,000,000 บาท
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ
การคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมากว่าพบการจำหน่ายเครื่องสำอางยี่ห้อดังซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมและด้อยคุณภาพ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงทำการสืบสวนจนทราบถึงแหล่งที่มาของสินค้าผิดกฎหมายดังกล่าว พบบ้านเช่าที่มีคนจีนเช่าเป็นแหล่งเก็บสินค้าปลอมและด้อยคุณภาพ จำนวน 3 แห่ง โดยสินค้าดังกล่าวได้นำมาโฆษณาขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาที่ถูกมากกว่าปกติ ต่อมาในวันที่ 7 มีนาคม 2565 กก.4 บก.ปคบ., กก.1 บก.ปอศ. ได้ร่วมกับ อย. ในการเข้าค้น จำนวน 3 จุด รายละเอียดดังนี้
1.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าค้นบ้านเช่า ในซอยสัมมากร แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ โดยพบคนสัญชาติจีนจำนวน 2 คน (สงวนชื่อนามสกุลจริง) แสดงตนเป็นผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบบ้านหลังนี้ใช้เป็นสถานที่เก็บสินค้าและแพ็คบรรจุสินค้าส่งให้กับลูกค้า จากนั้นตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอมยี่ห้อดังและด้อยคุณภาพ และตรวจยึดผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยว่าปลอม รวมกว่า 19 รายการ
2.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นของศาลแขวงพระนครเหนือ เข้าค้นบ้านเช่า ในซอยรามคำแหง 76 แยก 2 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ โดยตรวจยึดเครื่องสำอางปลอมยี่ห้อดังและด้อยคุณภาพ และตรวจยึดผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยว่าปลอม รวมกว่า 13 รายการ โดยลักษณะเช่าเป็นสถานที่เก็บสินค้า
3.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นของศาลแขวงพระนครเหนือ เข้าค้นบ้านเช่า ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ โดยตรวจยึดผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยว่าปลอม รวมกว่า 12 รายการ โดยลักษณะเช่าเป็นสถานที่เก็บสินค้า
จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทั้งหมด พบมูลค่าสินค้ากว่า 30 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนกก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม
1. พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558
– ฐาน “ขายเครื่องสำอางปลอม” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534
– ฐาน “จำหน่าย เสนอจำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรองหรือเครื่องหมายร่วมปลอม” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้เป็นการจับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายที่ลักลอบปลอมที่มีเครื่องหมายการค้าและนำเอาเลขที่ใบรับแจ้งของผู้อื่นมาใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางปลอม จึงขอย้ำเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทางสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีราคาถูกเกินกว่าปกติ หรือโฆษณาโปรโมชั่นการตลาดที่ราคาลดลงจนไม่น่าเป็นไปได้ เช่น ลด 50 -70 % , ซื้อ 1 แถม 2, สินค้า Pre Order, กล่าวอ้างซื้อตัดล็อต หรือเป็นของแท้จากต่างประเทศ ไม่เสียภาษีจึงราคาถูก เป็นต้น ให้ระลึกไว้เสมอว่าท่านกำลังเสี่ยงต่อการได้ของปลอม ของไม่มีคุณภาพ ใช้แล้วอาจเกิดอาการแพ้ หน้าพังได้ ฉะนั้น จึงขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบ และขอเตือนผู้บริโภคก่อนซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพใด ๆ ควรตรวจสอบข้อมูลอนุญาตทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th ก่อนทุกครั้ง ไม่ควรซื้อเครื่องสำอางที่ไม่มีเลขจดแจ้ง ไม่มีฉลาก หรือแสดงฉลากเป็นภาษาต่างประเทศ หรือราคาถูกเกินจริง กลุ่มเครื่องสำอางที่มีการโฆษณาสรรพคุณผิวขาวภายใน 7 วัน ขาวนีออน ขาวออร่า ลดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว ริ้วรอย มักพบสารห้ามใช้ ซึ่งเมื่อใช้ไประยะหนึ่งผิวจะกลายเป็นดำคล้ำเป็นฝ้าถาวร หรือเป็นแผลเป็นถาวรไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทั้งนี้หากพบแหล่งผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายหรืออาจไม่ปลอดภัยในการบริโภค ขอให้แจ้งเบาะแสร้องเรียนมาได้ที่ สายด่วน อย. โทร. 1556 อีเมล์ 1556@fda.moph.go.th หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่าระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าหลงซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านสื่ออนไลน์ เพียงเพราะเห็นแก่ราคาสินค้าที่ถูกกว่าท้องตลาดและหลงเชื่อการโฆษณา และขอเน้นย้ำกับผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางแพลตฟอร์ม อี-มาร์เก็ตเพลส และทาง สื่อออนไลน์ทั้งหลายว่าอย่านำสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายหรือหลอกลวงผู้บริโภคโดยเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา