“การที่ผมได้รับตำแหน่งรายได้สูงที่สุดใน “คิงส์เฮิร์บ” นั้น ก็เกิดมาจากทีมงานทุกคน การไม่ปิดโอกาสของตัวเอง และความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าเราแค่เรียนรู้แต่ไม่ยอมพัฒนา การจะก้าวขึ้นมาคงเป็นไปได้ยาก”
พงศ์ธร เชื้อบัณฑิต ผู้ที่ได้รับรางวัลรายได้สูงสุดอันดับ 1 ของ “คิงส์เฮิร์บ เวิลด์ 1999” ผู้นำตำแหน่งเสื้อสามารถที่ไม่เคยทิ้งโอกาสที่จะพัฒนาตัวเอง แต่สิ่งที่ทำให้เขาได้มาในรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ก็เพราะการตัดสินใจที่จะออกมาจาก Safe – Zone ในงานประจำของตัวเอง
พงศ์ธร เคยทำงานประจำเกี่ยวกับการดูแลคอมพิวเตอร์ในสนามบินครอบคลุมภาคอีสานทั้งหมด แต่สิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ได้ตอบโจทย์ให้แก่เขา เพราะมีความรู้สึกว่าถ้าอยากจะมีฐานะ คงไม่ใช่กับอาชีพนี้ เพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเกือบทุกคนล้วนมีฐานะร่ำรวย ซึ่งเมื่อถามออกไปก็จะพูดตรงกันว่าทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้เขาตัดสินใจออกจากงานประจำ และมองหาธุรกิจที่จะให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการโดยทันที
สาเหตุหลักที่เขาเลือกทำธุรกิจกับ “คิงส์เฮิร์บ” นอกจากไม่อยากทำงานเป็นลูกน้องใครแล้ว สิ่งสำคัญที่ตัดสินใจทำกับที่นี่ เพราะด้วย “ผลิตภัณฑ์พลูคาว” ที่ได้ทดลองใช้กับตัวเอง จากที่มีโรคประจำตัว คือ ไมเกรน และบิดาแนะนำให้ดื่ม ซึ่งหลังจากดื่มแล้วอาการของเขาดีขึ้น จึงลองศึกษาและก็ได้รู้ว่าเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์เขาได้จริง เพราะให้ทั้งอิสรภาพทางด้านการเงินและเวลา ไม่ต้องมีเจ้านาย ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร เขาจึงตั้งใจลงมือทำตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“คิงส์เฮิร์บ” คือ ธุรกิจที่อยู่ในกระแส และเป็นธุรกิจที่ทุกคนสามารถทำได้ เพราะไม่ว่าใครก็ต้องการมีสุขภาพที่ดี รายได้ที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญทำได้โดยไม่กระทบงานประจำ หรือคนที่มองหาอาชีพที่ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ผมว่า “คิงส์เฮิร์บ” ตอบโจทย์มากที่สุด เพราะลงทุนน้อยเพียงครั้งเดียวแต่สร้างรายได้แบบไม่มีเพดานจำกัด ไม่ต้องไปเช่าที่หรือหาทำเลดี ๆ ที่สำคัญไม่ต้องสต๊อกสินค้า ทั้งหมดนี้คือเสน่ห์ของที่นี่ ที่ทำให้ผมเลือกร่วมธุรกิจด้วยแบบไม่ลังเล”
ส่วนแผนการทำงานในปีนี้ของ พงศ์ธร นั้น จะรุกตลาดทางด้านโซเชียล โดยใช้สื่อออนไลน์ทำให้ทุกคนรู้จักองค์กรของเขามากขึ้นในไลฟ์สไตล์การทำธุรกิจของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือกลุ่มเกษียณ โดยจะทำให้ได้รู้ว่า “ทำไมพวกเขาต้องเลือก คิงส์เฮิร์บ เวิลด์ 1999” และจะมีการสอนระบบให้กับสมาชิกแบบง่าย ๆ ที่สามารถนำไปสานต่อได้ในทันที โดยใช้ระบบนี้เป็นแกนกลางในการให้ก๊อบปี้แบบไม่ยุ่งยาก ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจเครือข่ายเลยทีเดียว
“เป้าหมายปีนี้องค์กรต้องมีผลลัพธ์เกิดขึ้น ไม่ว่าจะยอดขาย หรือรายได้ แล้วก็การขยายตลาดสู่ต่างประเทศต้องเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อน ประมาณ 30% เพราะเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด ผมจะใช้สื่อออนไลน์ เพิ่มยอดขายให้มากขึ้น คนที่ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจของเรา ต้องสามารถสตาร์ตธุรกิจได้เลย”
และในรางวัลที่เขาได้รับ ซึ่งเราจะไม่ถามถึงไม่ได้เลยก็คือ “รางวัลรายได้สูงสุดอันดับ 1 ของ “คิงส์เฮิร์บ เวิลด์ 1999” นั้น เขาทำได้อย่างไร ? เขาบอกกับเราว่า “การที่ผมได้รับตำแหน่งรายได้สูงที่สุดใน “คิงส์เฮิร์บ” นั้น เกิดมาจากทีมงานทุกคน การไม่ปิดโอกาสของตัวเอง และความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าเราแค่เรียนรู้แต่ไม่ยอมพัฒนา การจะก้าวขึ้นมาคงเป็นไปได้ยาก ผมอยากบอกว่าทุกคนมีโอกาสก้าวขึ้นมาเหมือนกับผม แต่ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่น ตั้งใจ แบบไม่ท้อถอยของตัวคุณเอง ถ้าคุณทำได้ ความสำเร็จ จะอยู่ไม่ไกลจากตัวของคุณเลย”
การทำงานต้องมีความพยายามและความอดทน ยุคนี้อาจเจอเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจ หรือโรคระบาด เราต้องอดทน ขยัน และหมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ “วันนี้ยังมีโอกาส และแสงสว่างที่รอเราอยู่ ธุรกิจเครือข่าย อาจเป็นสิ่งที่ทุกคนคิดว่าไม่ใช่อาชีพที่จะสร้างความมั่นคง เป็นแค่งานที่ทำชั่วครู่ชั่วคราว แต่อยากให้มองดูใหม่ โดยเฉพาะ “คิงส์เฮิร์บ” ธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ที่ทุกวันนี้คนดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นโอกาสที่จะเข้าถึงลูกค้า โอกาสจะสร้างรายได้ และมีสุขภาพดีนั้นอยู่ไม่ไกลเลย เหนื่อยแค่ 1-2 ปี แต่คุณจะสบายในปีต่อ ๆ ไป และสามารถเกษียณตัวเองได้จริง”
