ซมโปะ ประกันภัย ผู้ให้บริการด้านประกันวินาศภัย เผยคาดการณ์การเติบโตปี 64 โตกว่าปี 63 กว่า 16 % ดีเกินคาดหลังพิษโควิด – 19 ทำเศรษฐกิจชะลอตัว ชี้เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ โดยสัดส่วนพอร์ตลูกค้าญี่ปุ่นคิดเป็น 60% ขณะที่สัดส่วนพอร์ตลูกค้าไทย 40% พร้อมตอกย้ำพันธกิจยืนยันดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ชี้ปี 65 เดินหน้าลุยสร้างนวัตกรรมการบริการอย่างเต็มสูบ เพื่อมอบประสบการณ์การบริการที่ดีแก่ลูกค้า เร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกความต้องการ
ผศ.ชญณา ศิริภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SOMPO กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปี 2564 ที่ค่อนข้างซบเซา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็น Flag Ship ของบริษัทฯ อย่างประกันภัยการเดินทางต้องชะงักจากสถานการณ์โควิด-19 แม้จะมีปัจจัยหลากหลายด้านที่ส่งผลกระทบดังที่กล่าวข้างต้น แต่บริษัทฯ ยังคงมีผลประกอบการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยสามารถสร้างการเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 16% คิดเป็นเบี้ยประกันภัย หรือ GWP อยู่ที่ 3,329 ล้านบาท โดยมีพอร์ตลูกค้าไทยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ส่งผลให้ปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตลูกค้าญี่ปุ่นคิดเป็น 60% ขณะที่สัดส่วนพอร์ตลูกค้าไทยเพิ่มเป็น 40%
“ซมโปะ ประกันภัยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง จากอัตราเติบโตในปี 2564 ที่ 16% ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ แม้ว่าประกันภัยการเดินทางจะยังไม่กลับมาฟื้นตัว แต่เราเชื่อว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หรือการ work from anywhere ส่งผลให้มีการใช้รถยนต์อย่างต่อเนื่อง และการตระหนักถึงสุขภาพของคนไทย จะส่งผลดีประกันภัยรถยนต์ของซมโปะ เพราะคนหันมาเดินทางด้วยรถส่วนตัว เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น” ผศ.ชญณากล่าว
ผศ.ชญณา กล่าวต่อว่า คนไทยตื่นตัวเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระตุ้นให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพ ซึ่งซมโปะ ประกันภัย มีประกันสุขภาพที่โดดเด่น โดยเฉพาะเงื่อนไขที่เข้าใจง่าย และสามารถซื้อได้สะดวกรวดเร็วผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่ง
ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าซมโปะ ประกันภัยให้ความสำคัญเรื่องการดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่น ดังนั้นลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทฯ จะได้รับการดูแลอย่างดี รวมถึงมั่นใจได้ว่าซมโปะ ประกันภัย มีความมั่นคง เพราะบริษัทแม่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 130 ปี ขณะที่ซมโปะ ประกันภัยดำเนินธุรกิจในไทยมานานกว่า 24 ปี
นอกจากนี้ ซมโปะ ประกันภัย ยังมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่ออนาคต โดยบริษัทแม่ซมโปะ เจแปน อินชัวรันส์ ได้เพิ่มทุนอีก 900 ล้านบาทในซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) เมื่อปลายปี 2563 เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทฯ และการก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
“เราเชื่อว่าการลงทุนด้านนวัตกรรมจะช่วยสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการบริการ นอกจากลูกค้าจะได้รับบริการที่รวดเร็ว ทันใจแล้ว ยังได้รับการดูแลที่ดีจากซมโปะ ประกันภัย นอกจากนี้เรามีการทำวิจัยความต้องการของลูกค้า ทดสอบระบบ ทบทวนความเสี่ยงรอบด้าน ก่อนที่จะพัฒนาโปรเจ็กต์ใหม่ๆ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพราะหัวใจสำคัญของเรา คือ การดูแลและมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เทคโนโลยีถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้บรรลุวัตถุประสงค์ได้” ผศ.ชญณา กล่าว