“ดร.ฐัช หัชลีฬหา” คลื่นลูกใหม่มาแรง ต่อยอดนวัตกรรมแพลตฟอร์ม NEW RETAIL J&C imart ค้าปลีกรูปแบบใหม่ร้านค้าสร้างอาชีพเพื่อชุมชนก้าวข้ามผ่านวิกฤติ พร้อมพัฒนาเครื่องมือการตลาดทั้งระบบออฟไลน์และออนไลน์เชื่อมโยงโครงข่ายครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ปลื้มโดดคว้ารางวัล Best Retail Franchise Of The Year 2020 เป็นค้าปลีกไทยเจ้าแรกที่ได้รับรางวัล เปิดตัว Mascot Branding “ปลาเราเพียร” สร้าง Brand Loyalty สร้างความจงรักภักดีต่อองค์กร
ดร.ฐัช หัชลีฬหา ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทีส่งผลกระทบกับธุรกิจเป็นวงกว้างจนหลายที่ต้องปรับกลยุทธ์รวมถึงโมเดลในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่สำหรับธุรกิจยักษ์ใหญ่ขายตรงโมเดิร์นเทรด จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น (J&C) กับกลยุทธ์การตลาดแบบไฮบริด (Hybrid) นับเป็นธุรกิจหนึ่งเดียวที่มีการก้าวข้ามผ่านวิกฤติไปหนึ่งก้าวก่อนเสมอ ซึ่งองค์กรใช้หลักในการบริหารจัดการและวางกลยุทธ์ในภาวะวิกฤติอยู่เสมอ เพื่อที่จะมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ๆ ในการสร้างเครื่องมือให้กับนักธุรกิจสามารถทำธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และพร้อมก้าวสู่การทำธุรกิจแบบนิวรีเทล (NEW RETAIL) ค้าปลีกรูปแบบใหม่
“ด้วยกลยุทธ์การสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ที่มีระบบรองรับทั้งออฟไลน์และออนไลน์ทำให้เราไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะเรามีเครื่องมือที่สนับสนุนการทำธุรกิจที่รอบด้าน J&C ได้ปรับตัวการทำธุรกิจตั้งแต่ก่อนโควิด-19 จะอุบัติขึ้น คือ มีการพัฒนาระบบค้าปลีกมารวมกับการทำธุรกิจขายตรง ซึ่งเมื่อก่อนมีคนสงสัยว่ามันจะยั่งยืนหรือเปล่า นอกจากนี้เรายังมีการขยายสาขาไปทั่วประเทศ และเมื่อ 5 ปีที่แล้วมีการสร้างห้างสรรพสินค้าสะดวกซื้อขึ้นมา คือ JC Mall และมีช่องทาง Payment Gateway ซึ่งเราได้ออกแบบระบบการจ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล J&C E-Wallet นอกเหนือจากนี้ยังมี JC M-Commerce, JC M-Shop ,J&C imart และระบบหลังบ้าน Suppy Chain ที่แข็งแกร่งรองรับการทำธุรกิจให้ทั้งหมดและยังมีสินค้าอุปโภค-บริโภค ให้จัดจำหน่ายมากกว่า 30,000 รายการ พร้อมให้บริการจัดส่งสินค้าถึงที่ทั่วประเทศ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ถือเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้สมาชิกสามารถดำเนินธุรกิจได้ในวิกฤติแบบนี้ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ”
ดร.ฐัช กล่าวต่อว่า “ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา J&C มีการพัฒนาระบบตลาดภายในของธุรกิจขายตรงอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีแนวความคิดให้เห็นภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะมีการเปิดระบบต่าง ๆ ให้คนภายนอกเข้ามาใช้งานร่วมได้ด้วย ซึ่งกระเป๋าเงินดิจิทัล JC E-Wallet จะมีการเชื่อมกับภาคธนาคารไทยพาณิชย์ และในอนาคตจะมีการเชื่อต่อกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ รวมถึงเชื่อมต่อไปยังแพลตฟอร์มในต่างประเทศอีกด้วย เรายึดหลักการ 3 หลักการ ที่ใช้อยู่ตลอด ประกอบด้วย 1.การอยู่รอด คือ ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีอาชีพอยู่ ยังสามารถมือเครื่องใช้ทำธุรกิจต่อได้ 2.การอยู่เป็น คือ เมื่อใช้เครื่องมือที่บริษัทจัดทำให้ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ เขายังมีเงินและรายได้ตลอดเวลา 3.การอยู่ยาว คือ จะทำอย่างไรให้สมาชิกอยู่ได้ยาวนานและมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคิดกลยุทธ์ SOLOMO ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจในระยะยาว เป็นกลยุทธ์หนึ่งของการตลาดที่วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภครูปแบบใหม่ และยังมีการไปเชื่อมโยงกับภาครัฐกระทรวงพาณิชย์เพื่อทำให้ระบบหลังบ้านแข็งแรงขึ้น”
ทั้งนี้ J&C imart นับเป็น นิวรีเทล (NEW RETAIL) ค้าปลีกรูปแบบใหม่นวัตกรรมร้านค้าสร้างอาชีพเพื่อชุมชนยังสามารถคว้ารางวัล Best Retail Franchise Of The Year 2020 จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (DBD) จากการประกวดรางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ประจำปี 2563 (Thailand Franchise Award 2020) ซึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ไทยรายแรกที่ได้รับรางวัลนี้ และยังได้มีการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมคว้ามาตรฐาน ISO 29110 เป็นมาตรฐานของวัฏจักรหรือกระบวนการพื้นฐานในการพัฒนาซอฟต์แวร์ และเตรียมเดินสายออกโรดโชว์ 13 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึง วันที่ 13 มกราคาปี 2565 นอกจากนี้ยังมีการสร้างแบรนด์ J&C imart ผ่าน Mascot Branding “ปลาเราเพียร” เพื่อใช้มาสคอตสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเป็นตัวแทนให้นักธุรกิจและผู้บริโภคเกิด Brand Loyalty ต่อองค์กร โดยที่ใช้ “ปลาเราเพียร” เป็นมาสคอต เพื่อสื่อถึงความเพียรเรียนรู้ เพียรทำงาน อีกด้วย
