นายสวัสดิ์ นฤวรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Life Operation Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากนโยบายการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต หรือ Life Solutions ผ่านการส่งมอบสุขภาพที่ดีและการสร้างความมั่งคั่งทางการเงิน ด้วยนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและการเงินที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มในทุกช่วงชีวิต ภายใต้แนวคิด “ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” หรือ Customer Centric
ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ บริษัทฯ จึงได้พัฒนาแบบประกันใหม่ Life Solutions Product ในกลุ่มมันนี่ฟิต (Money Fit) 2 แบบ คือ “มันนี่ ฟิต เวลท์ตี้ 12/6” (มีเงินปันผล) และ “มันนี่ ฟิต เวลท์ตี้ 15/5” (มีเงินปันผล) ซึ่งเป็นสินค้าแบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล (Participating Product) ที่มีการให้ผลประโยชน์เพิ่มเติมในรูปแบบเงินปันผล เหมาะสำหรับกลุ่มคนวัยทำงานหรือผู้มีเงินได้ ที่ต้องการสร้างหลักประกันชีวิตควบคู่การออมที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า การสร้างกองทุนเกษียณอายุ หรือใช้เป็นกองทุนสำรองในยามฉุกเฉิน เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางการเงินในอนาคต
แบบประกัน “มันนี่ ฟิต เวลท์ตี้ 12/6” (มีเงินปันผล) ชำระเบี้ยประกันภัย 6 ปี ระยะเวลาคุ้มครอง 12 ปี ระหว่างสัญญารับเงินคืน 2% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 1-4 และรับเงินคืนเพิ่มเป็น 3% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 5-8 และรับเงินคืน 4% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 9-11 ครบกำหนดสัญญารับเงินก้อน 600% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย กรณีเสียชีวิตระหว่างสัญญาจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดตั้งแต่ 100% – 600% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
และแบบประกัน “มันนี่ ฟิต เวลท์ตี้ 15/5” (มีเงินปันผล) ชำระเบี้ยฯ เพียง 5 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิตนาน 15 ปี รับเงินคืนระหว่างสัญญา 8% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 1-10 และรับเงินคืน 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 11-14 ครบกำหนดสัญญารับเงินก้อน 400% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตระหว่างสัญญา รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดตั้งแต่ 100% – 500% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
แบบประกันทั้งสองแบบนี้ ผู้เอาประกันภัยมีโอกาสจะได้รับเงินปันผล ตามอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนกลุ่มสินทรัพย์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์แบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Par Fund ในแต่ละปี หากมีผลตอบแทนมากกว่าเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด ผลตอบแทนส่วนที่เกินจะถูกนำมาจัดสรรเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้
เอาประกันภัย ในรูปแบบของเงินปันผลระหว่างสัญญา และเงินปันผลเมื่อครบกำหนดสัญญา ซึ่งการพิจารณาจ่ายเงินปันผล จะขึ้นอยู่กับผลตอบแทนจากการลงทุน Par Fund โดยบริษัทฯ จะพิจารณาจ่ายเงินปันผลทุกวันครบรอบปีกรมธรรม์ ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 2 เป็นต้นไป
“ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในปัจจุบัน แบบประกันที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้น ถือเป็นทางเลือกที่ตอบความต้องการของผู้บริโภค เพราะให้ทั้งความคุ้มครองชีวิต มีเงินคืนตลอดสัญญา และมีโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มจากเงินปันผล รวมถึงสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท รองรับทุกแผนการเงินในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครได้ง่ายๆ โดยไม่ตรวจและไม่ต้องแถลงสุขภาพอีกด้วย” นายสวัสดิ์กล่าว
นอกจากนี้ ผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ ยังได้รับบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต อาทิ ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทั่วโลก ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์และให้บริการข้อมูลแก่ผู้เอาประกันภัย โทร.1124 หรือตรวจสอบข้อมูลพร้อมทำธุรกรรมด้วยตัวเองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต โดยมีตัวแทนฯ Life Partner กว่า 50,000 คน พร้อมเป็นที่ปรึกษาดูแลชีวิตและวางแผนการเงินอย่างมืออาชีพ