นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า สมาคมประกันวินาศภัยไทยได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมภาคธุรกิจในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 นี้ โดยได้จัดทำแนวปฏิบัติของธุรกิจประกันวินาศภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (Industry Guideline) รวมทั้งจัดทำเอกสารแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) และเตรียมการประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบในกรณีที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ. นี้มีผลใช้บังคับ
“คณะกรรมการกฎหมายและกฎระเบียบของสมาคมฯ ได้ร่วมกับบริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ศึกษาหลักการของ พ.ร.บ. รวมถึงแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลของธุรกิจประกันวินาศภัยในต่างประเทศ และได้จัดทำแนวปฏิบัติขึ้นเพื่อวางแนวทางในการเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล โดยในแนวปฏิบัตินั้นครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทประกันวินาศภัย รวมถึงตัวอย่างของนโยบาย เอกสาร และ Data Flow ที่บริษัทประกันวินาศภัยต้องจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า”
ในการจัดทำแนวปฏิบัติของธุรกิจประกันวินาศภัยนั้น สมาคมฯ ได้ดำเนินการภายใต้หลักการที่ว่า บริษัทประกันวินาศภัยไม่ต้องขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยอ้างอิงข้อยกเว้นในการปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 24 (3) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 24 (5) และการปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรา 24 (6)
สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Data) นั้น บริษัทประกันวินาศภัยไม่ต้องขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลเช่นกัน โดยอ้างอิงข้อยกเว้นในการปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 24 (3) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 24 (5) และการปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรา 24 (6) เป็นฐาน และอ้างอิงข้อยกเว้นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายตามมาตรา 26 (4) หรือประโยชน์สาธารณะที่สำคัญตามมาตรา 26 (5) (จ) ประกอบเพิ่มเติม
สมาคมฯ ได้มีการเผยแพร่ร่างแนวปฏิบัติฯ ให้กับสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจ และได้จัดประชุมชี้แจงร่างแนวปฏิบัติฯ ดังกล่าวเพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนถัดไปคือการนำเสนอร่างแนวปฏิบัติฯ รวมทั้งหารืออุปสรรคในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ของธุรกิจประกันวินาศภัย กับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงาน คปภ. และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ได้ข้อยุติและแนวปฏิบัติฉบับสมบูรณ์
นายอานนท์ วังวสุ ได้กล่าวปิดท้ายว่า “การประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในปัจจุบันเป็นการทำธุรกิจบนโลกของ Big Data ดังนั้น การเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล จึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล และต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เพียงพอและเหมาะสม ด้วยเหตุนี้
สมาคมประกันวินาศภัยไทยจึงได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทสมาชิกในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ธุรกิจประกันวินาศภัยสามารถนำข้อมูลที่จำเป็นมาวิเคราะห์และใช้เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจได้ และสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม”