“วิริยะประกันภัย” ครองแชมป์บริษัทประกันวินาศภัยอันดับ 1 ต่อเนื่อง เพราะเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง-ยอดขายเติบโตก้าวกระโดด-ตัวแทนประกันมีคุณภาพ พิสูจน์ได้จาก 3 ตัวแทนที่คว้ารางวัลตัวแทนประกันวินาศภัยดีเด่น ปี 62 จาก คปภ.
“ปียพัชณ์ วงศอนันสุนทรี” จากสาขาอุดรธานี ได้รับรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2562 จาก คปภ. เล่าว่า เดิมทีมีอาชีพเป็นพยาบาลวิชาชีพ ทำงานอยู่ 12 ปี ซึ่งพยาบาลเป็นอาชีพที่มั่นคง แต่สิ่งที่ขาดหายไป คือ เวลา จนได้มาร่วมงานกับ วิริยะประกันภัย ได้ 15 ปี โดยเริ่มต้นจากที่ไม่มีประสบการณ์เลย แต่ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท ทำให้พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับสิ่งที่ประทับใจ คือ วิริยะประกันภัย เป็นบริษัทอันดับ 1 ที่มีความเข้มแข็ง มีเครือข่ายบริการที่มีความครอบคลุมทุกจังหวัด มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี
ซึ่ง วิริยะประกันภัย จะให้เกียรติตัวแทนมาก และให้การดูแลที่ดีมาก ไม่ว่าการประชุม จะเริ่มที่สาขา เริ่มที่ภาค จนถึงระดับประเทศ หรือแม้แต่การไปท่องเที่ยว ตัวแทนก็จะได้รับการเทคแคร์ดูแลอย่างอบอุ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ในกลุ่มตัวแทนด้วยกันจะสัมผัสได้
“เมื่อเข้ามาเป็นตัวแทนก็ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เคลม เจ้าหน้าที่สาขา จนตนเองแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ จากความเชื่อมั่นในตัวองค์กร จึงทำให้ตัวดิฉันเองส่งต่อความรู้สึกนี้ไปให้กับลูกค้าได้ สำหรับยอดขายต่อเดือนที่ทำได้ประมาณ 2-3 ล้านบาท ซึ่งตนเองรู้สึกภูมิใจ และเป็นเกียรติมากกับอาชีพตัวแทน ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ทำงานกับวิริยะฯ ก็ได้รับการสนับสนุนที่ดีมาตลอด”
“สุพร จันทร์โภคาไพบูลย์” จากสาขาปากเกร็ด-345 ได้รับรางวัลตัวแทนประกันวินาศภัยดีเด่น ประจำปี 2562 จาก คปภ. กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะมาทำงานตัวแทน เธอเป็นพนักงานของธนาคารของสิงคโปร์มาก่อน ซึ่งธนาคารที่มีการเปิด LC ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากค่าธรรมเนียมถูก เพราะฉะนั้นประกันวินาศภัยตัวแรกที่รู้จักคือ ประกันภัยมารีน (ประกันขนส่งสินค้า) จึงทำให้ตระหนักว่าประกันภัยมีความสำคัญ หลังจากนั้นเมื่อลาออกจากที่เดิม ได้มาเปิดโรงงานผลิตดอกไม้ประดิษฐ์จากสบู่ และมีการส่งออก จึงทำให้รู้จักประกันภัยอีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องทำประกันภัยให้กับโรงงานของตนเอง จึงศึกษาประกันต่างๆ จนมาได้ยินชื่อ “วิริยะประกันภัย” ซึ่งมีแต่ข้อดีจากคำบอกเล่าของผู้อื่น จึงตัดสินใจให้ “วิริยะประกันภัย” เข้ามาดูแล และเมื่อได้ทำประกันภัยของวิริยะประกันภัยเป็นบริษัทที่ใหญ่มาก แต่มีการดูแลลูกค้า รวมถึงคู่ค้าเหมือนคนในครอบครัว อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล จึงทำให้ตนเองได้เรียนรู้ และเข้าใจ จนได้มาเป็นตัวแทนของวิริยะประกันภัย จึงได้ส่งต่อสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกค้า
“ตอนเข้ามาทำงานที่วิริยะฯ ใหม่ๆ วิริยะฯ สนับสนุนให้มีชมรมตัวแทน เพราะต้องการให้มีการสื่อสารระหว่างตัวแทนกับลูกค้า ซึ่งตัวแทนคือด่านหน้าในการเข้าถึงลูกค้า เพราะฉะนั้น ตัวแทนจะสามารถส่งต่อสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ กลับมาที่บริษัทได้ ซึ่งปัจจุบันชมรมตัวแทนก็ยังอยู่และเข้มแข็งขึ้น”
ส่วนในเรื่องของศูนย์ซ่อมรถนั้น วิริยะประกันภัยมีการนำเงินที่ได้จากลูกค้า ไปลงทุนในอู่ค่อนข้างมาก โดยทำให้อู่นั้นๆ เป็นศูนย์ซ่อมมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานที่ดูแลลูกค้าให้ลูกค้าสามารถติดต่อลูกค้าได้ 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ตนเองเติบโตจนสามารถปิดยอดการขายได้เดือนละ 6-7 ล้านบาท
“จิตร์ตรา เพชรวิสัย” จากสาขาภูเก็ต ได้รับรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2562 จาก คปภ. เล่าให้ฟังว่า เริ่มจากประมาณปี 2537 ตนเองเป็นพนักงานบัญชีของ วิริยะประกันภัย สาขาสุราษฎร์ธานี โดยเป็นพนักงานอยู่ 4 ปี ก็มีจุดหมายว่าต้องการทำอะไรเป็นของตนเอง ในขณะนั้น วิริยะประกันภัย เปิดรับตัวแทน พื้นที่จังหวัดพังงา ภูเก็ต ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะตนเองอยากไปทำงานอิสระ เป็นนายตัวเอง เลยเป็นจุดเริ่มต้นเปิดสำงานตัวแทนที่ภูเก็ต จนถึงปัจจุบัน
ส่วนตัวคิดว่า วิริยะประกันภัย เป็นบริษัทประกันบริษัทเดียวที่มีศูนย์สาขาครอบคลุมทั่วไทย จึงทำให้ตัวแทนทำงานได้ง่ายขึ้นมาก ขณะเดียวกัน วิริยะประกันภัย จะคอยดูแล สนับสนุนตัวแทนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสาขา หรือศูนย์บริการ จนทำให้ตนเองมียอดขายต่อเดือนเกือบ 2 ล้านบาท
“เวลาที่ทำงานมากว่า 20 ปี ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าวิริยะฯ เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อมั่นอยู่แล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดคิดว่าแบรนด์ของตนเองก็สำคัญ เพราะต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวเรา และกล้าจ่ายเงินให้เราได้ ดังนั้น ตัวแทนทุกคนจึงต้องมีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้สำเร็จในอาชีพตัวแทนได้ จนถึงวันนี้ วิริยะประกันภัย คือส่วนหนึ่งในครอบครัว เป็นบ้านหลังที่สอง ทำให้ตนเองมีทุกอย่างได้ทุกวันนี้”